สูตรวิธีทำลอดช่องของหวานสูตรดั้งเดิมทำขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้
ลอดช่องสิงค์โปร์ทำขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ อากาศที่ร้อนอบอ้าวมากขึ้นทุกวัน นอกจากทำให้การใช้ชีวิตของคนเราเปลี่ยนแปลงไปแล้วอาหารหรือของหวานสูตรแบบดั้งเดิมที่ทำขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้หรือทำเป็นอาชีพหลัก อย่างเช่น ขนมรวมมิตรหรือลอดช่องสิงคโปร์หาทานยากมาก เนื่องจากลอดช่องสิงคโปร์มีส่วนประกอบหลักๆก็คือน้ำกะทิ ซึ่งเป็นหัวใจหรือส่วนประกอบสำคัญที่จะทำให้ขนมมีรสหวานมันอร่อย แต่เป็นส่วนที่ทำให้ขนมบูดได้ง่าย ยิ่งช่วงที่อากาศร้อนๆก็จะเป็นปัญหาอย่างมากจนทำให้แม่ค้าพ่อค้าขนมหวานเลิกทำขนมรวมมิตรหรือลอดช่องสิงคโปร์ขาย ทั้งๆที่เป็นขนมหวานซึ่งเหมาะสำหรับทำขายในช่วงหน้าร้อน ทานแล้วทำให้รู้สึกสดชื่นและช่วยคลายความร้อนได้ สูตรวิธีทำลอดช่องของหวานสูตรแบบดั้งเดิม สำหรับคนที่คิดว่าวิกฤติมันคือโอกาสและสนใจทำรวมมิตรลอดช่องสิงคโปร์ขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ ผู้เขียนมีวิธีทำตัวลอดช่องให้เหนียวอร่อยพร้อมเคล็ดลับการทำรวมมิตรลอดช่องสิงคโปร์ไม่ให้บูดง่ายมาแนะนำค่ะ วิธีทำรวมมิตรลอดช่องสิงคโปร์ ส่วนประกอบ 1. แป้งมันสำปะหลัง 1 ถุง (ถุงเล็ก) 2. น้ำต้มเดือด (ใส่ภาชนะตั้งไฟให้เดือดหรือใช้น้ำร้อนในกระติกน้ำร้อนไฟฟ้าก็ได้เช่นกัน) 3. น้ำตาลทราย 500 กก. 4. น้ำกะทิ 600 กรัม 5. นมสด 1 กระป๋อง 6. เกลือป่น 2 ช้อนชา 7. ขนุนสุก 300 กรัม 8. สีดอกอัญชัน 2 ช้อนโต๊ะ 9. สีของใบเตย
เคล็ดลับความอร่อยในการขายอาหารประเภทปิ้งย่างเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้
ขายประเภทปิ้งย่างอาชีพเสริมสร้างรายได้ อาหารประเภทปิ้งย่างหลากหลายชนิดที่นิยมทำขายเพื่อเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ เช่น ลูกชิ้นปิ้งลูกชิ้นทอด ปลาหมึกย่าง ไส้กรอกอีสาน แหนมทอดแหนมย่าง ไส้อั่ว หรือแม้แต่อาหารประเภทปิ้งย่างสไตล์เกาหลี เคล็ดลับความอร่อยของอาหารปิ้งย่างนอกจากการเลือกใช้เครื่องปรุง ที่มีคุณภาพดีรวมถึงการเลือกใช้วัตถุดิบสดใหม่แล้ว การทานคู่กับผักสดก็ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหารได้มากจนทำให้หลายๆคนนิยมทานเป็นอาหารว่าง เป็นของทานเล่นหรือทานคู่กับเครื่องดื่มตามงานเลี้ยงสรรค์ต่างๆ ขายอาหารประเภทปิ้งย่างจึงเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ยอดนิยมอีกอาชีพหนึ่ง เคล็ดลับการเลือกซื้อผักสดทานคู่กับอาหารประเภทปิ้งย่าง การเลือกซื้อผักเพื่อทานคู่กับอาหารปิ้งย่างถือว่าเป็นเคล็ดลับความอร่อยที่หลายคนมองข้าม ถึงแม้จะทำเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้หากใส่ใจและให้ความสำคัญกับสิ่งเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ก็ช่วยทำให้รสชาติและการขายอาหารประเภทปิ้งย่างของเราแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นๆได้ ผักสดที่นิยมทานคู่กับอาหารปิ้งย่าง เช่น แตงกวา และกะหล่ำปลี ซึ่งการเลือกซื้อแตงกวามีวิธีเลือกซื้อง่ายๆ เช่นเลือกแตงกว่าลูกขนาดกลางไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป มีผิวสีเขียวเมื่อซื้อมาแล้วให้แบ่งล้างน้ำแค่พอใช้หากใช้ไม่หมดจะทำให้ผิวแตงกวากลายเป็นสีเหลือง การปลอกเปลือกไม่ควรปลอกจนหมดควรเหลือผิวสีเขียวๆไว้บ้างจะช่วยทำให้แตงกว่ากรอบอร่อยค่ะ สำหรับการเลือกซื้อกะหล่ำและการนำมาใช้ควรเลือกที่มีน้ำหนักมากลักษณะเนื้อแน่น ใบหุ้มมีสีเขียวอ่อนออกขาว การนำกะหล่ำมาทานคู่กับอาหารประเภทปิ้งย่างต้องนำมาหั่นตามที่เราต้องการ แล้วนำไปแช่น้ำเพราะการเลือกกะหล่ำที่มีเนื้อแน่นอาจมีสารตกค้าง หลายคนเคยทานกะหล่ำปลีดิบแล้วมีกลิ่นสารเคมี เพราะไม่ได้นำไปแช่น้ำหรือไม่ได้ล้างให้สะอาดนั้นเอง การหารายได้จากอาชีพเสริมสร้างรายได้โดยการขายอาหารประเภทปิ้งย่างหรืออาหารประเภทอื่นๆที่มีผักเป็นส่วนประกอบขั้นตอนการเลือกซื้อผักสดและการทำความสะอาดก่อนนำมาใช้หรือนำมาประกอบอาหารมีส่วนสำคัญมาก ทราบวิธีเลือกซื้อผักสดมาทานคู่กับอาหารประเภทปิ้งย่างกันแล้วขอให้สนุกกับการขายและการหารายได้นะค่ะ
การปลูกเห็ดนางฟ้าวิธีเพาะเห็ดนางฟ้าขายอาชีพเสริมสร้างรายได้
อาชีพเสริมสร้างรายได้โดยการเพาะเห็ดนางฟ้าในท่อปูน สำหรับคนที่กำลังมีปัญหาด้านการเงิน รายได้ไม่พอใช้ หรือมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นเช่น มีลูกๆอยู่ในวัยเรียนที่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นแต่รายรับยังเท่าเดิม การหาอาชีพเสริมสร้างรายได้ทำเพื่อให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นคือวิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้องและทำได้ง่ายที่สุดวิธีหนึ่ง การหาอาชีพเสริมสร้างรายได้ที่ผู้เขียนอยากจะแนะนำในวันนี้ ได้แก่วิธีเพาะเห็ดนางฟ้า และเป็นวิธีเพาะที่ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายสูงๆซึ่งเหมาะสำหรับการหารายได้เพิ่มค่ะ วิธีเพาะเห็ดนางฟ้า การปลูกเห็ดนางฟ้า ในท่อปูน เห็ดนางฟ้าเป็นที่ต้องการของตลาดเพราะสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู แต่วิธีเพาะเห็ดนางฟ้านั้นมีกระบวนการหลายขั้น หากต้องการทำเป็นอาชีพหลักต้องมีการจัดทำโรงเรือนและการทำก้อนเชื้อรวมถึงขั้นตอนการอบซึ่งการทำก้อนเชื้อและมีเครื่องอบจะช่วยให้ลดต้นทุนได้มากกว่าการซื้อก้อนเชื้อสำเร็จ ส่วนการเพาะขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้โดยไม่ต้องลงทุนทำโรงเรือนหรือทำก้อนเชื้อรวมถึงขั้นตอนการอบด้วยตนเองเนื่องจากเพาะจำนวนน้อย ก็คือการเพาะในภาชนะที่เรามีอยู่แล้วแต่ไม่ได้ใช้ เช่น ท่อปูน วิธีนี้นอกจากใช้เงินลงทุนต่ำแล้วยังเหมาะสำหรับคนทำงานที่ต้องการมีรายได้เพิ่มเนื่องจากเพาะจำนวนน้อยดูแลได้ทั่วถึง และสามารถเก็บขายให้กับลูกค้าประจำอย่างเช่นร้านอาหาร เพราะเป็นการเก็บสดๆใหม่ๆตามปริมาณที่ลูกค้าต้องการในแต่ละวัน วิธีและขั้นตอนการเพาะเห็ดนางฟ้าในท่อปูน วัสดุอุปกรณ์ 1.ท่อปูนขนาดความกว้าง 1 เมตรหรือตามขนาดที่เรามีอยู่แล้ว 3.ก้อนเชื้อเห็ดนางฟ้า 50-60 ก้อน หรือเพียงพอสำหรับจัดเรียงในท่อปูน 4.ไม้อัดตัดให้มีขนาดเท่ากับความกว้างของท่อปูน 5.บัวสำหรับรดน้ำ วิธีเพาะเห็ดในท่อปูน 1.ให้นำท่อปูนมาวางในลักษณะตะแคงพิงผนังหากเป็นท่อปูนที่เปิดทั้งสองด้านให้นำไม้อัดมาตัดเท่าขนาดความกว้างปิดไว้ 1 ด้านก่อนที่จะนำไปพิงผนังในพื้นที่ที่แสงแดดส่องไม่ถึง 2.นำก้อนเชื้อเห็ดที่เชื้อเห็ดเดินเต็มถุงแล้ววางเรียงซ้อนกันในท่อปูนจนเต็มท่อแล้วเปิดจุกขวด 3.นำแผ่นไม้อัดที่เตรียมไว้มาปิด และหมั่นรดน้ำอย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้งให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ ประมาณ 7 วันเห็ดก็จะเริ่มออกดอกให้เก็บขายได้ ข้อดีของการเพาะในท่อปูนอีกอย่างหนึ่งก็คือเห็ดจะออกไม่พร้อมกันทำให้เราเลือกเก็บขายได้ทุกวัน สำหรับการเพาะเห็ดนางฟ้าขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้นอกจากเพาะในท่อปูนแล้ว ยังสามารถเพาะในโอ่งมังกรได้ด้วย แต่อาจได้ปริมาณเห็ดที่น้อยไม่เพียงพอสำหรับเก็บขายในแต่ละครั้งค่ะ
เพาะเลี้ยงกล้วยไม้สกุลแคทลียาขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้
การเลี้ยงกล้วยไม้สกุลแคทลียาขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ “กล้วยไม้แคทลียา” เป็นไม้ดอกอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมและมีการนำเพาะเลี้ยงเพื่อเป็นไม้ดอกไม้ประดับ จนทำให้เกิดอาชีพเพาะเลี้ยงกล้วยไม้แคทลียาขาย หรือบางคนที่มีงานประจำอยู่แล้วยังนำกล้วยไม้นิ้วซึ่งมีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อในขวดมาปลูกลงกระถางขาย เป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้ไม่น้อยกว่ารายได้ที่ได้รับจากงานประจำ การปลูกกล้วยไม้แคทลียานอกจากปลูกไว้เพื่อเป็นไม้ประดับแล้ว หลายคนยังเพาะเลี้ยงเพื่อส่งกล้วยไม้เข้าประกวดชิงเงินรางวัลอีกด้วย ถือว่าเป็นอาชีพเสริมที่น่าสนใจสำหรับคนที่ชื่นชอบการปลูกต้นไม้ โดยเฉพาะไม้ดอกไม้ประดับอย่างเช่นกล้วยไม้สกุลต่างๆ การขยายพันธุ์กล้วยไม้แคทลียาให้ได้กล้วยไม้ที่สมบูรณ์มีดอกที่สวยงาม กล้วยไม้แคทลียาถือว่าเป็นราชินีของกล้วยไม้และเป็นสัญลักษณ์สากลของกล้วยไม้ทั่วไป มีดอกใหญ่สีสวยงามและมีหลายชนิด บางชนิดยังมีกลิ่นหอมกล้วยไม้แคทลียาที่ออกดอกแล้ว ราคาจำหน่ายอยู่ที่กระถางละ 150-300 บาท หรือแพงกว่านั้นหากดอกใหญ่และมีสีที่สวยงาม การขยายพันธุ์กล้วยไม้แคทลียาเป็นอาชีพเสริมที่ทำได้ไม่ยาก หากมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงอย่างถูกวิธีก็สามารถปลูกให้ออกดอกได้เร็วและมีสีที่สวยงามจำหน่ายได้ราคาดี ปัจจัยสำคัญในการขยายพันธุ์กล้วยไม้สกุลแคทลียาก็คือการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ เพราะนอกจากต้นไม้ต้องการน้ำแล้ว น้ำยังเป็นตัวช่วยละลายสารอาหารเพื่อนำไปเลี้ยงส่วนต่างๆของลำต้น รวมถึงการให้สารอาหารหรือปุ๋ยซึ่งต้องศึกษาให้รู้ว่าปุ๋ยแต่ละสูตรมีวิธีการใช้ที่แตกต่างกันอย่างไร เช่น ปุ๋ยสำหรับบำรุงต้น บำรุงใบ เร่งการออกดอกและการรักษาโรค ซึ่งส่วนใหญ่ได้แก่การเกิดเชื้อราต่างๆ ส่วนแมลงที่มากัดกินใบก็สามารถใช้ยาฆ่าแมลงที่หมักใช้เองอย่างเช่นน้ำหมักจากใบสะเดา เพราะนอกจากราคาถูกแล้วยังไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ การขยายพันธุ์กล้วยไม้สกุลแคทยาเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ ไม่จำเป็นต้องลงทุนทำโรงเรือนในการเพาะเลี้ยงเพียงนำกระถางไปแขวนไว้ในที่ซึ่งมีร่มเงา หรือใต้ร่มไม้ที่แสงแดดไม่แรงมาก หมั่นบำรุงรักษาและเพาะเลี้ยงให้ลำต้นสมบูรณ์ แล้วจึงให้ปุ๋ยสูตรเร่งดอกการบำรุงไปตามลำดับขั้นตอนจะทำให้ได้กล้วยไม้แคทลียาที่สมบูรณ์มีดอกที่สวยงาม ซึ่งนอกจากขายได้ราคาดีแล้วยังสามารถนำไปประกอดเพื่อชิงเงินรางวัลได้อีกทางหนึ่งด้วยค่ะ
เริ่มต้นขายเบเกอรี่เป็นอาชีพเสริมตอนที่3
ขายเบเกอรี่อาชีพเสริมสร้างรายได้ตอนที่3 การทำเบเกอรี่ขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ หรือทำเป็นอาชีพหลักหากใครได้ติดตามอ่านบทความในตอนที่ 1 และ 2 แล้ว ก็คงพอทราบแนวทางการเริ่มต้นทำเบเกอรี่ขาย พร้อมได้เรียนรู้ประสบการณ์ตรงของครูหน่อย หรือวลัยพรที่เริ่มทำเบเกอรี่ขายเพียงเพราะต้องการมีกิจกรรมทำกับลูกๆ ได้ใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียนทำอาชีพเสริมสร้างรายได้และได้ดูแลอยู่ใกล้ชิดกับลูกๆ2 คนที่กำลังเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น จนทำให้การขายเบเกอรี่เป็นอาชีพอิสระกลายเป็นอาชีพหลัก ทำให้สามีลาออกจากงานมาเปิดร้านกาแฟสดเพื่อขายเบเกอรี่และรับสั่งทำเค้กจนกลายเป็นอาชีพหลักอีกอาชีพหนึ่ง หากไม่พร้อมก็อย่าฝืนมีอาชีพอิสระที่น่าสนใจรออยู่อีกมาก ผู้เขียนมีโอกาสได้ไปนั่งดื่มกาแฟสดและทานเบเกอรี่ที่ร้านของครูหน่อย ทำให้ทราบว่านอกจากทำเบเกอรี่ขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้แล้ว ครูหน่อยและครอบครัวยังมีกิจกรรมให้ทุกคนในครอบครัวได้ช่วยกันดูแลอีกด้วย นั่นก็คือการเลี้ยงปลาดุกไว้ในบ่อดินธรรมชาติ ครูหน่อยเล่าว่าการทำเบเกอรี่ขายทำให้มีเศษขนมปังเหลืออยู่ทุกวัน ประกอบกับมีพื้นที่ว่างบริเวณบ้านสามีครูหน่อยจึงจ้างรถมาขุดเป็นบ่อดินหรือสระขนาดเล็กไว้สำหรับเลี้ยงปลาดุกเพื่อกินเศษขนมปังที่เหลือทำให้มีงานเสริมเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งอาชีพ การเลี้ยงปลาดุกแบบธรรมชาติทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งแต่เลี้ยงไม่มากเพราะไม่ต้องการลงทุนหรือเลี้ยงเป็นอาชีพ ประสบการณ์ตรงและเรื่องราวการเริ่มต้นขายเบเกอรี่ของครูหน่อยที่ผู้เขียนนำมาเล่าเป็นการแบ่งปันประสบการณ์เพื่อช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับหลายๆคนที่ต้องการมีอาชีพเสริมสร้างรายได้แต่เริ่มต้นไม่ถูกและไม่รู้ว่าจะเลือกทำอาชีพอะไรดี มุมมองในการทำงานเสริมของครูหน่อย เธอให้แนวคิดว่าทุกอาชีพมีความสำเร็จรออยู่ และไม่มีสิ่งใดได้มาฟรีๆโดยไม่มีการลงทุน หากต้องการความสำเร็จหรือหวังผลก็ต้องกล้าที่จะลงทุน หากไม่พร้อมในการทำอาชีพที่เราสนใจต้องไม่ฝืนที่จะทำเพราะยังมีอาชีพอิสระที่น่าสนใจรออยู่อีกมากมายค่ะ