สูตรวิธีการทำพันช์น้ำดอกอัญชันเพื่อทำขายเป็นอาชีพเสริม
อาชีพเสริมเพิ่มรายได้ทำ พันช์ น้ำดอกอัญชันขาย ดอกอัญชัน ดอกไม้สีสวยที่นิยมปลูกไว้ริมรั้วมีประโยชน์และมีค่ามากกว่าที่คิดนอกจากเก็บดอกสดๆขายให้กับแม่ค้านำไปทำเป็นส่วนผสมในขนมหวาน เป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้แล้ว การปลูกดอกอัญชันยังมีประโยชน์สามารถนำไปเป็นส่วนประกอบในอาหาร ทำเป็นเครื่องดื่มและยังมีสรรพคุณทางยาใช้เป็นยาขับปัสสาวะเป็นยาระบายและแก้ตาฟางตาแฉะได้ ทำให้ดอกอัญชันทั้งแบบดอกสดๆหรือดอกอัญชันตากแห้งเป็นที่ต้องการของตลาดมาก แต่การปลูกดอกอัญชันตากแห้งขายอาจมีความยุ่งยากในเรื่องของตลาดที่ต้องรวบรวมดอกอัญชันตากแห้งให้ได้ปริมาณมากๆซึ่งต้องใช้เวลา และไม่เหมาะที่จะทำเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ เพราะต้องดูแลเอาใจใส่และใช้เวลาในการเก็บดอกมาตากแห้ง สูตรวิธีการทำ พันช์ น้ำดอกอัญชันสามารถนำมาเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ สำหรับประโยชน์ของดอกอัญชันที่เรารู้กันดีก็คือการนำมาทำเป็นสีผสมในขนมหวาน หรือนำมาชุบแป้งทอดกรอบทานคู่กับน้ำจิ้มเป็นของว่างหรือของทานเล่น แต่วันนี้ผู้เขียนมีสูตรวิธีการทำพันช์น้ำดอกอัญชันมาแนะนำเพื่อทำขายเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ เรามาดูสูตรส่วนผสมและขั้นตอนการทำกันเลยค่ะ สูตรวิธีการทำ พันช์ น้ำดอกอัญชัน ส่วนผสม 1.ดอกอัญชันสด 100 กรัม 2.น้ำตาลทราย 500 กรัม 3.น้ำเปล่า 4.น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ 5.น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ 6.โซดาแช่เย็น 1 ขวด วิธีทำ 1.ล้างดอกอัญชันให้สะอาดนำใส่หม้อเติมน้ำเปล่า 2 ถ้วย ตั้งไฟต้มจนเดือดแล้วพักไว้ให้เย็น จากนั้นนำมากรองจะได้น้ำอัญชันสำหรับทำพันช์ 2.ทำน้ำเชื่อม นำน้ำตาลทรายที่เตรียมไว้ใส่ในหม้อเติมน้ำเปล่า 500 กรัม เคี่ยวไฟอ่อนจนได้น้ำเชื่อมตามที่ต้องการ
เลี้ยงไก่บ้านไก่พื้นเมืองขายเป็นอาชีพเสริม
เลี้ยงไก่บ้านไก่พื้นเมืองอาชีพเสริมทำที่บ้าน คนที่มีรายได้ประจำและต้องทำงานเป็นเวลา หากต้องการอาชีพเสริมทำที่บ้าน เพื่อให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น หรือเลือกทำธุรเสริมเพราะเหตุผลอื่นก็คงต้องเลือกงานที่เหมาะกับเวลาว่างเพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับงานประจำ หรือไม่ทำให้รู้สึกเหนื่อยมากจนเกินไป เลี้ยงไก่พื้นเมืองเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจและเหมาะสำหรับเลี้ยงขายเพื่อหารายได้ เป็นอาชีพเสริมที่ไม่ต้องใช้เวลาดูแลมากนัก ไม่กระทบกับงานประจำและการเลี้ยงไก่ยังเป็นการพักผ่อนได้ผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานอีกด้วย ไก่บ้านไก่พื้นเมืองเลี้ยงง่าย ราคาดี เหมาะสำหรับทำเป็นอาชีพเสริมทำที่บ้าน การเลี้ยงไก่บ้านเพื่อเป็นอาชีพเสริมทำที่บ้าน มีข้อจำกัดก็คือต้องมีพื้นที่บริเวณบ้านเพื่อให้ไก่ได้ออกหากินตามธรรมชาติ ไม่มีสัตว์เลี้ยงอย่างเช่นสุนัขคอยรบกวน อาจทำโรงเรือนเล็กๆไว้ให้ไก่นอนหรือเป็นที่หลบแดดหลบฝนและเป็นที่สำหรับทำรังให้ไก่ไข่ หากต้องการจำกัดพื้นที่เพื่อให้ดูแลง่ายอาจใช้ตาข่ายซึ่งมีขายอยู่ทั่วไปล้อมบริเวณโรงเรือนและพื้นที่ที่ต้องการให้ไก่ได้เดินเล่นและออกหากินตามธรรมชาติ หากต้องการให้ไก่โตเร็วและมีน้ำหนักดี นอกจากให้อาหารอย่างเช่น ข้าวเปลือก ถั่ว ข้าวโพด และอาหารอื่นๆแล้ว ควรให้หัวอาหารผสมกับรำข้าวบ้างเป็นบางครั้ง การเลี้ยงไก่พื้นเมืองเพื่อขยายพันธุ์ควรเลี้ยงหลายๆสายพันธุ์เพราะเมื่อผสมพันธุ์กันแล้วจะทำให้ได้ลูกไก่ที่เจริญเติบโตเร็ว น้ำหนักดี ไก่พื้นเมืองตลาดไม่ตันและมีความต้องการมากเพราะคนนิยมทาน ราคาดี เป็นอาชีพที่ใช้เงินลงทุนไม่มาก ใช้เวลาเลี้ยงไม่นาน ไก่รุ่นที่ตลาดมีความต้องการน้ำหนักตัวอยู่ที่ประมาณ 1 กก.หรือ 1.5 กก เวลาขายก็ไม่ยุ่งยากเพราะจะมีพ่อแม่ค้ามารับซื้อจนถึงบ้าน สำหรับคนทำงานประจำหรือมีอาชีพหลักที่ต้องทำงานตั้งแต่เช้าประมาณ 8.00 น จนถึงเวลา 17.00 น เป็นประจำทุกวัน ยกเว้นวันหยุดก็คงต้องการใช้เวลาว่างพักผ่อนอยู่กับบ้าน การเลี้ยงไก่พื้นเมืองเป็นการพักผ่อนอีกรูปแบบหนึ่งที่นอกจากช่วยให้เราได้รู้สึกผ่อนคลายได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์แล้วยังมีอาชีพเสริมทำที่บ้าน ที่ทำให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วยค่ะ
เริ่มต้นขายเบเกอรี่เป็นอาชีพเสริมตอนที่3
ขายเบเกอรี่อาชีพเสริมสร้างรายได้ตอนที่3 การทำเบเกอรี่ขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ หรือทำเป็นอาชีพหลักหากใครได้ติดตามอ่านบทความในตอนที่ 1 และ 2 แล้ว ก็คงพอทราบแนวทางการเริ่มต้นทำเบเกอรี่ขาย พร้อมได้เรียนรู้ประสบการณ์ตรงของครูหน่อย หรือวลัยพรที่เริ่มทำเบเกอรี่ขายเพียงเพราะต้องการมีกิจกรรมทำกับลูกๆ ได้ใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียนทำอาชีพเสริมสร้างรายได้และได้ดูแลอยู่ใกล้ชิดกับลูกๆ2 คนที่กำลังเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น จนทำให้การขายเบเกอรี่เป็นอาชีพอิสระกลายเป็นอาชีพหลัก ทำให้สามีลาออกจากงานมาเปิดร้านกาแฟสดเพื่อขายเบเกอรี่และรับสั่งทำเค้กจนกลายเป็นอาชีพหลักอีกอาชีพหนึ่ง หากไม่พร้อมก็อย่าฝืนมีอาชีพอิสระที่น่าสนใจรออยู่อีกมาก ผู้เขียนมีโอกาสได้ไปนั่งดื่มกาแฟสดและทานเบเกอรี่ที่ร้านของครูหน่อย ทำให้ทราบว่านอกจากทำเบเกอรี่ขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้แล้ว ครูหน่อยและครอบครัวยังมีกิจกรรมให้ทุกคนในครอบครัวได้ช่วยกันดูแลอีกด้วย นั่นก็คือการเลี้ยงปลาดุกไว้ในบ่อดินธรรมชาติ ครูหน่อยเล่าว่าการทำเบเกอรี่ขายทำให้มีเศษขนมปังเหลืออยู่ทุกวัน ประกอบกับมีพื้นที่ว่างบริเวณบ้านสามีครูหน่อยจึงจ้างรถมาขุดเป็นบ่อดินหรือสระขนาดเล็กไว้สำหรับเลี้ยงปลาดุกเพื่อกินเศษขนมปังที่เหลือทำให้มีงานเสริมเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งอาชีพ การเลี้ยงปลาดุกแบบธรรมชาติทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งแต่เลี้ยงไม่มากเพราะไม่ต้องการลงทุนหรือเลี้ยงเป็นอาชีพ ประสบการณ์ตรงและเรื่องราวการเริ่มต้นขายเบเกอรี่ของครูหน่อยที่ผู้เขียนนำมาเล่าเป็นการแบ่งปันประสบการณ์เพื่อช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับหลายๆคนที่ต้องการมีอาชีพเสริมสร้างรายได้แต่เริ่มต้นไม่ถูกและไม่รู้ว่าจะเลือกทำอาชีพอะไรดี มุมมองในการทำงานเสริมของครูหน่อย เธอให้แนวคิดว่าทุกอาชีพมีความสำเร็จรออยู่ และไม่มีสิ่งใดได้มาฟรีๆโดยไม่มีการลงทุน หากต้องการความสำเร็จหรือหวังผลก็ต้องกล้าที่จะลงทุน หากไม่พร้อมในการทำอาชีพที่เราสนใจต้องไม่ฝืนที่จะทำเพราะยังมีอาชีพอิสระที่น่าสนใจรออยู่อีกมากมายค่ะ
เริ่มต้นขายเบเกอรี่เป็นอาชีพเสริมตอนที่2
ขายเบเกอรี่อาชีพเสริมสร้างรายได้ตอนที่2 การทำเบเกอรี่ขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ ที่ต้องใช้เงินลงทุนในการเลือกซื้ออุปกรณ์อย่างเช่น เครื่องอบ เครื่องตีไข่ และวัสดุอุปกรณ์อื่นๆ รวมถึงต้องมีการเรียนรู้วิธีทำเบเกอรี่ซึ่งอาจศึกษา และนำสูตรจากหนังสือหรือแหล่งข้อมูลความรู้ต่างๆแล้วนำมาทดลองทำ หรือเรียนเฉพาะอย่าง เช่นการทำเค้กวันเกิดหรือการทำขนมอบกรอบ เพราะจะมีการเปิดสอนเป็นคอร์สสั้นๆราคาไม่แพงมาก เมื่อเรียนรู้แล้วสามารถนำมาทำขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้โดยไม่ต้องเสียเวลาเรียนผิดเรียนถูกด้วยตนเองสำหรับคนที่สนใจหาอาชีพอิสระจากการขายเบเกอรี่แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี ผู้เขียนมีประสบการณ์ตรงของคนที่ประสบความสำเร็จในการทำเบเกอรี่ขายเป็นอาชีพอิสระมาแนะนำค่ะ จากจุดเริ่มต้นเล็กๆพัฒนามาเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้อย่างยั่งยืน ครอบครัวของคุณครูหน่อย หรือวลัยพร เป็นครอบครัวหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในการทำเบเกอรี่เป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้นอกจากเหนือจากเงินเดือนประจำจากการรับราชการครู การทำเบเกอรี่ขายเริ่มต้นจากสามีของครูหน่อยเป็นเซลส่งขนมที่ต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา ทำให้ไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัว ประกอบกับลูกๆกำลังอยู่ในช่วงวัยรุ่นที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ทำให้ครูหน่อยตัดสินใจซื้อเครื่องอบขนาดเล็ก และอุปกรณ์สำหรับทำเบเกอรี่เพื่อทำส่งให้กับร้านค้าในโรงเรียนและเป็นกิจกรรมที่จะได้ทำร่วมกับลูกๆช่วงเลิกเรียน ครูหน่อยเป็นคนที่ชื่นชอบการทำเบเกอรี่อยู่แล้ว จึงเลือกทำขนมง่ายๆ ราคาไม่แพงอย่างเช่น การทำเค้กชิ้นราคา 5 บาท และพายไก่ พายไส้กรอก เมื่อเริ่มมีความชำนาญมากขึ้นก็ทำออกขายกับลูกๆในช่วงวันหยุดเช่นตลาดนัด เพื่อให้เป็นรายได้ของลูกๆประกอบกับครูหน่อยเป็นคนที่รักการทำขนม เลือกใช้วัตถุดิบที่ดีและเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ในการแต่งหน้าเค้กทำให้เป็นที่ถูกใจของลูกค้า จนมีลูกค้าโทรศัพท์มาสั่งซื้อเค้กวันเกิดเป็นประจำ จากจุดเริ่มต้นเล็กๆที่ต้องการใช้เวลาว่างทำกิจกรรมกับลูกๆ ด้วยการทำเบเกอรี่เป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ ปัจจุบันสามีของครูหน่อยลาออกจากงานมาเปิดร้านกาแฟสด พร้อมกับขายเบเกอรี่ที่ทำเองและรับขนมประเภทอบกรอบมาขายเพิ่ม ครูหน่อยเล่าว่าทุกวันจะมียอดสั่งเค้กวันเกิดให้ทำไม่ได้หยุดโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ จนต้องส่งสามีไปเรียนการแต่งหน้าเค้กเพิ่มเติมเพื่อมาช่วยครูหน่อยอีกแรงหนึ่ง นอกจากขายเบเกอรี่แล้วครูหน่อยยังมีอาชีพเสริมที่เป็นผลมาจากการทำเบอเกอรี่ขายอีกทางหนึ่งด้วยค่ะ
เริ่มต้นขายเบเกอรี่เป็นอาชีพเสริมตอนที่1
ขายเบเกอรี่อาชีพเสริมสร้างรายได้ตอนที่1 เบเกอรี่ขนมหวานประเภทอบที่หลายคนชอบทาน หรือนิยมทานคู่กับน้ำชากาแฟ เป็นขนมหวานสไตล์ฝรั่งที่มีหลากหลายชนิด เหมาะสำหรับทำขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ ถึงแม้ขนมประเภทเบเกอรี่จะมีวิธีทำหลายขั้นตอนและต้องมีวัสดุอุปกรณ์อย่างเช่นเครื่องอบซึ่งราคาแพง เป็นอุปกรณ์หลัก แต่ก็เป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ที่น่าสนใจและน่าลงทุน เนื่องจากเป็นขนมหวานแนวฝรั่งที่มีหลายชนิดหลายประเภทคนส่วนใหญ่นิยมทานสามารถเลือกทำขายได้ตามความที่เราต้องการ อยากเริ่มต้นทำอาชีพเสริมสร้างรายได้ต้องกล้าที่จะลงทุน การเริ่มต้นทำเบเกอรี่ขาย อาจดูเป็นเรื่องยากสำหรับหลายๆคน ทั้งสูตรและวิธีทำรวมถึงอุปกรณ์ในการทำเบเกอรี่ซึ่งนอกจากเครื่องอบแล้วก็ยังต้องมีอุปกรณ์อื่นๆเช่น เครื่องตีไข่ ผู้เขียนอยากแนะนำว่าการที่จะเริ่มต้นทำอะไรสักอย่างเพื่อเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ต้องกล้าที่จะลงทุน เช่นต้องการทำเบเกอรี่ขายอุปกรณ์หลักอย่างเครื่องอบ และเครื่องตีไข่ถือว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะทำให้ขนมมีคุณภาพ รสชาติอร่อยไม่ผิดเพี้ยนไปจากสูตรดั้งเดิม หากเราต้องการทำเป็นเพียงอาชีพเสริมเพื่อให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นแนะนำให้เลือกซื้อเตาอบขนาดเล็กซึ่งราคาไม่แพงประมาณ 2-3 พันบาท รวมถึงอุปกรณ์สำหรับตีไข่ด้วยที่ต้องเลือกซื้อให้เหมาะกับชนิดของเบเกอรี่ที่เราต้องการทำขาย เมื่อได้อุปกรณ์สำหรับทำเบเกอรี่แล้วสิ่งที่เราต้องศึกษาต่อก็คือการเลือกชนิดของเบเกอรี่ที่ต้องการทำขายควรเน้นชนิดใดชนิดหนึ่งที่เราชอบทาน หรือคิดว่าเป็นขนมที่น่าจะทำขายได้แล้วลงมือศึกษาหรือทดลองทำอย่างจริงจัง เริ่มจากทดลองทำในปริมาณน้อยๆไปก่อนหรือเลือกเรียนทำเบเกอรี่คอร์สสั้นๆสอนเฉพาะอย่างเช่นสอนการทำเค้กวันเกิด หรือสอนทำขนมประเภทอบกรอบ ใช้เวลาเรียนสั้นๆราคาค่าเรียนประมาณ1,000-1,500 บาท ถือว่าไม่แพง การลงทุนเป็นหัวใจสำคัญในการหารายได้ ถึงแม้จะเป็นเพียงอาชีพเสริมสร้างรายได้ การเริ่มต้นขายเบเกอรี่ก็เช่นเดียวกันซึ่งจำเป็นที่จะต้องเลือกซื้อวัสดุอุปกรณ์หลักๆอย่างเช่นเตาอบและเครื่องตีไข่ หากเรามีเงินทุนไม่เพียงพอหรือไม่ต้องการอาชีพอิสระที่ใช้เงินลงทุนบ้างก็ต้องหลีกเลี่ยงและเลือกทำงานเสริมประเภทอื่นๆที่เหมาะกับงบประมาณของเราเป็นหลักค่ะ