สูตรวิธีทำน้ำจิ้มลูกชิ้นรสเด็ดอร่อยแตกต่างจากน้ำจิ้มลูกชิ้นทั่วๆไป
สูตรการทำน้ำจิ้มลูกชิ้นรสเด็ดทำขายเป็นอาชีพเสริม อาหารประเภทปิ้งย่างอย่างเช่น ปลาหมึก กุ้ง หอย ปลา หรือแม้แต่ลูกชิ้นปิ้งความอร่อยก็คงอยู่ที่ “น้ำจิ้มรสเด็ด” ซึ่งแต่ละสูตรก็มีวิธีทำที่แตกต่างกันถือเป็นกลเม็ดเคล็ดลับที่ไม่มีใครอยากจะเปิดเผยให้คนอื่นได้รับรู้ สำหรับคนที่ต้องการขายลูกชิ้นปิ้งเป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงาน หากต้องการน้ำจิ้มรสชาติจัดจ้านอร่อยแตกต่างจากน้ำจิ้มลูกชิ้นทั่วๆไป วันนี้ผู้เขียนมีสูตรเด็ดมาแนะนำให้ทำขายคู่กับลูกชิ้นปิ้งเป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงานรายได้รออยู่แน่นอนค่ะ ส่วนผสมและวิธีทำน้ำจิ้มลูกชิ้นรสเด็ดทำเป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงาน “น้ำจิ้มลูกชิ้นรสเด็ด” มีหลากหลายสูตร ส่วนผสมและวิธีทำอาจคล้ายๆกันแต่แตกต่างกันที่รสชาติและความเหนียวข้นของน้ำจิ้ม เคล็ดลับสำหรับการทำน้ำจิ้มรสเด็ดเพื่อขายคู่กับลูกชิ้นปิ้งเป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงาน ซึ่งนอกจากเครื่องปรุงหรือส่วนผสมที่ลงตัวแล้ว ขั้นตอนการเคี่ยวน้ำตาลก็มีส่วนสำคัญ ควรเคี่ยวด้วยไฟกลางเพื่อให้ได้น้ำจิ้มที่มีรสชาติกลมกล่อม การใช้ไฟแรงๆในการเคี่ยวส่วนผสมก็จะคล้ายๆกับการต้มทำให้น้ำตาลละลายโดยไม่ผ่านการเคี่ยวรสชาติจะไม่หวานหอมและกลอมกล่อม ส่วนสูตรในการทำน้ำจิ้มลูกชิ้นรสเด็ดมี 2 สูตรค่ะ คือสูตรที่มีรสเผ็ดมากและสูตรน้ำจิ้มเผ็ดน้อยสำหรับคนไม่ทานเผ็ด มีส่วนผสมและวิธีทำดังนี้ ส่วนผสมและวิธีทำน้ำจิ้มลูกชิ้นรสเด็ด ส่วนผสม 1.พริกชี้ฟ้าแดง 500 กรัม 2.กระเทียมแกะเปลือกออกให้เกลี้ยง 300 กรัม 3.มะขามเปียกคั้นน้ำแล้ว 300 กรัม(หรือมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับรสชาติของมะขาม) 4.น้ำตาลปีบ 700 กรัม 5.น้ำตาลทราย 300 กรัม 6.เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ 7.มะเขือเทศ 500 กรัม วิธีทำ
สูตรการทำขนมเปียกปูนใบเตยทำขายเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้
การทำขนมเปียกปูนใบเตยเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ เสน่ห์ของขนมหวานไทยๆก็คือมีความละเอียดอ่อนประณีตในการทำและยังมีรูปลักษณ์ที่สวยงาม “ขนมเปียกปูนใบเตย”เป็นขนมไทยอีกชนิดหนึ่งที่มีสีสวยกลิ่นหอมน่าทานส่วนผสมและขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก เหมาะสำหรับทำขายเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้หรือทำขายเป็นอาชีพอิสระ เปียกปูนเป็นขนมไทยโบราณที่นับวันจะหาทานได้ยาก ถึงแม้จะมีขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยากแต่ต้องมีความละเอียดอ่อนและใช้เวลาในการทำทำให้ขนมเปียกปูนสูตรโบราณแบบดั้งเดิมไม่ค่อยมีใครทำขาย สำหรับคนที่สนใจและต้องการทำขายเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ วันนี้ผู้เขียนมีสูตรและวิธีการทำมาฝากค่ะ สูตรและวิธีการทำขนมเปียกปูนใบเตย ส่วนผสม 1.แป้งเท้ายายม่อม½ ถ้วยตวง (ก่อนนำมาใช้ให้ร่อนแป้งในตะแกรงสำหรับร่อนแป้งก่อน) 2.แป้งข้าวเจ้า 1 ½ ถ้วยตวง 3.น้ำตาลปีบ 300 กรัม (หากชอบหวานแหลมอาจใช้น้ำตาลทรายใส่คู่กับน้ำตาลปีบตามรสชาติที่ต้องการ) 4.น้ำปูนใส 2 ถ้วยตวง (น้ำปูนใสควรแช่ไว้อย่างน้อย 2-3 คืนก่อนนำมาใช้) 5.มะพร้าวขูดฝอย 2 ถ้วย 6.น้ำใบเตยคั้นแบบข้น ½ ถ้วยตวง 7.เกลือป่น 2 ช้อนชา 8.หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง วิธีทำ 1.นำส่วนผสมทั้งหมดซึ่งได้แก่ แป้งเท้ายายม่อม แป้งข้าวเจ้า น้ำตาลมาผสมรวมกัน 2.ผสมน้ำใบเตยที่คั้นไว้กับน้ำปูนใสแล้วนำไปกรองด้วยผ้าขาวบาง 3.นำน้ำปูนใสและน้ำใบเตยที่กรองได้ไปนวดกับแป้งที่ผสมกันไว้ เมื่อแป้งละลายดีแล้วให้นำไปกรองด้วยผ้าขาวบางอีกครั้ง จะทำให้ได้เนื้อขนมเปียกปูนที่เนียนละเอียด 4.นำแป้งที่กรองไว้ใส่กระทะทองหรือภาชนะแล้วนำไปตั้งไฟปานกลางกวนไปในทิศทางเดียวกันจนได้เนื้อแป้งที่เหนียว 5.จากนั้นเทใส่ในถาดพักไว้ให้เย็น
ใบแมงลักผักสวนครัวสร้างรายได้ปลูกง่ายเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้
ใบแมงลักผักสวนครัวสร้างรายได้อาชีพเสริมเพิ่มรายได้ การปลูกผักสวนครัวขายเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ที่ทำได้ง่ายใช้เงินลงทุนไม่มาก หากปลูกเพื่อหารายได้ที่ไม่จำเป็นต้องมีรายได้มากปลูกขายเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวหรือปลูกไว้ทานเองก็ควรเลือกปลูกพืชผักที่ตลาดมีความต้องการ หรือนิยมนำมาเป็นส่วนประกอบในเมนูอาหาร เพราะการปลูกผักสวนครัวแต่ละชนิดเมื่อปลูกไว้แล้วทานก็ไม่หมดหรือขายก็ไม่เพียงพอที่จะนำไปขาย การปลูกเพื่อให้เกิดรายได้หรือสามารถขายเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้จึงนอกจากจะมีผักไว้ทานเองแล้วยังขายได้ทำให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นและเป็นการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้เป็นอย่างดี ปลูกใบแมงลักขายปลูกง่ายเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ที่น่าสนใจ “ใบแมงลัก” เป็นผักสวนครัวอีกชนิดหนึ่งที่สามารถนำมาประกอบในเมนูอาหารได้หลากหลายชนิด โดยเฉพาะเมนูอาหารท้องถิ่น เช่น แกงเลียง แกงเห็ด หมกหน่อไม้ หรือแกงหน่อไม้ซึ่งเป็นสูตรอาหารท้องถิ่นของคนโคราชใส่แทนผักชะอม แมงลักเป็นผักที่ปลูกง่าย ราคาไม่แพงทำให้คนที่ปลูกผักขายเป็นอาชีพมักมองข้าม และหันไปปลูกผักประเภทอื่นแทน การปลูกใบแมงลักขายจึงเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ที่น่าสนใจ วิธีปลูกก็ง่ายไม่ยุ่งยากหากมีพื้นที่มากจะปลูกแบบยกแปลงเหมือนการปลูกพืชผักอื่นๆทั่วไป แต่หากมีพื้นที่น้อยหรือไม่มีพื้นที่สำหรับปลูกก็อาจเลือกปลูกแมงลักในภาชนะอย่างเช่น ปลูกในกะละมัง ในภาชนะที่ไม่ได้ใช้แล้ว หรือปลูกในกระถางแล้ววางไว้ตามแนวรั้ว นอกจากเป็นการปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อขายหารายได้แล้วยังเป็นไม้ประดับที่มีความสวยงามและมีประโยชน์ที่หลายคนคิดไม่ถึง การหารายได้เล็กๆน้อยๆ โดยการปลูกพืชผักสวนครัวขายเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ทำให้ได้พักผ่อนและช่วยผ่อนคลายความเครียดที่เกิดจากการทำงานโดยไม่รู้ตัวเช่นมีอาการหงุดหงิดง่าย สมาธิสั้น และยังได้ออกกำลังกายจากการบำรุงดูแลโดยการรดน้ำพรวนดิน และที่สำคัญทำให้รู้สึกภาคภูมิใจเมื่อมีรายได้จากการขายผักที่เราปลูกถึงแม้จะเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ที่มีรายได้ไม่มากแต่ก็สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการสร้างงานสร้างอาชีพใหม่ๆให้กับเราได้ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบปลูกพืชผักสวนครัวแมงลักเป็นผักอีกชนิดหนึ่งที่น่าสนใจค่ะ
วิธีปลูกกล้วยไม้สกุลหวายโดยวิธีปักชำทำขายเป็นอาชีพเสริมรายได้ดี
กล้วยไม้สกุลหวายเป็นที่ต้องของตลาดเหมาะขายเป็นอาชีพเสริมรายได้ดี กล้วยไม้เป็นไม้ดอกที่สวยงาม แม้ในช่วงไม่มีดอกก็ยังเป็นไม้ประดับที่ให้ความสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ เป็นพันธุ์ไม้ที่ปลูกง่ายดูแลรักษาไม่ยากโดยเฉพาะกล้วยไม้สกุลหวาย หากนำมาเพาะพันธุ์ขายเป็นอาชีพเสริมรายได้ดี เนื่องจากกล้วยไม้สกุลหวายเป็นที่ต้องการของตลาด ราคาถูกและยังมีหลากหลายชนิดให้เลือกซื้อไปปลูก สำหรับคนที่รักและชื่นชอบการปลูกไม้ดอกไม้ประดับหากต้องการอาชีพเสริมรายได้ดี ผู้เขียนมีวิธีปลูกกล้วยไม้สกุลหวายมาแนะนำค่ะ วิธีปลูกกล้วยไม้สกุลหวายโดยวิธีปักชำขายเป็นอาชีพเสริมรายได้ดี การปลูกกล้วยไม้สกุลหวายเหมาะสำหรับปลูกขายเป็นอาชีพเสริมรายได้ดีเนื่องจากเป็นกล้วยไม้สกุลใหญ่ที่มีหลากหลายสายพันธุ์ ผู้เขียนเคยแนะนำให้ปลูกกล้วยไม้นิ้วซึ่งเป็นกล้วยไม้สกุลหวายขายเป็นอาชีพเสริมมาแล้ว แต่ในบทความนี้เป็นการแนะนำการปลูกกล้วยไม้สกุลหวายโดยวิธีปักชำ ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ปลูกเลี้ยงกล้วยไม้สกุลหวายอยู่บ้างแล้ว หรือหากต้องการปลูกเป็นอาชีพเสริมก็สามารถซื้อกล้วยไม้มาเพาะเลี้ยงไว้เพื่อนำมาปักชำขายก็ได้เช่นกัน ซึ่งการปลูกกล้วยไม้สกุลหวายโดยวิธีปักชำสามารถทำได้ทุกสายพันธุ์รวมถึงพันธุ์ที่มีราคาแพงๆอย่างเช่น เอื้องผึ้ง เอื้องคำ แววมยุรา ฯลฯ วิธีปลูกกล้วยไม้สกุลหวายโดยวิธีปักชำ วัสดุอุปกรณ์ 1.กรรไกรตัดแต่งกิ่งไม้ 2.ปูนแดงหรือปูนกินหมาก 3.กาบมะพร้าวแช่น้ำ 4.กระถางสำหรับปลูกกล้วยไม้ วิธีปักชำ 1.ตัดแขนงกล้วยไม้แก่ที่ใบหลุดร่วง หรือตัดแยกแขนงกล้วยไม้ที่แตกหน่ออัดกันแน่นอยู่ในกระถางออกมาแล้วนำปูนแดงมาทาบริเวณรอยแผลที่ตัดทิ้งไว้จนปูนแห้ง 2.นำกาบมะพร้าวที่แช่น้ำไว้มาหุ้มบริเวณโคนที่ทาปูนแดงเอาไว้ ใช้เชือกมัดให้แน่น 3.จากนั้นนำแขนงกล้วยไม้แก่ที่หุ้มด้วยกาบมะพร้าวไปปักชำลงในกระถางที่เตรียมไว้ หากกระถางกว้างหรือใหญ่เกินไปให้นำกาบมะพร้าวแช่น้ำอัดเสริมให้แน่น 4.รดน้ำให้มีความชื้นสม่ำเสมอ ไม่นานแขนงกล้วยไม้แก่ที่ปักชำไว้ก็จะแตกตาและเติบโตเป็นแขนงใหม่ออกมาสามารถตัดไปปลูกลงกระถางเพาะเลี้ยงต่อไปได้อีก การปลูกกล้วยไม้ขายด้วยวิธีปักชำเป็นอาชีพเสริมรายได้ดี เพราะลงทุนเพียงครั้งเดียวและหมั่นบำรุงรักษากล้วยไม้ที่ปลูกไว้ไม่นานก็สามารถแยกแขนงมาปักชำเพื่อเพาะขายได้ ทราบวิธีกันแล้วขอให้มีความสุขและสนุกกับการเพาะกล้วยไม้ขายนะค่ะ
การปลูกผักกาดขาวขายเป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงานที่น่าสนใจ
ผักกาดขาวปลูกได้ตลอดทั้งปีเหมาะปลูกขายเป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงาน “ผักกาดขาว” เป็นผักเศรษฐกิจที่ตลาดมีความต้องการตลอดทั้งปี เพราะใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารได้หลากหลายชนิด นอกจากนั้นยังทานดิบๆเป็นผักเคียงคู่กับอาหารรสจัดอย่างเช่น ลาบ น้ำตาก หรือส้มตำ การปลูกผักกาดขายเป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงานที่น่าสนใจเพราะเป็นผักที่ปลูกได้ตลอดทั้งปี วิธีปลูกและการดูแลรักษาก็ไม่ยุ่งยาก สำหรับคนที่ต้องการปลูกผักกาดขาวขายเป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงาน วันนี้ผู้เขียนมีคำแนะนำดีๆมาฝากค่ะ วิธีการปลูกผักกาดขาวการดูแลและบำรุงรักษาทำให้ได้ต้นผักกาดขาวที่สมบูรณ์ที่สุด การปลูกผักกาดขาวมีขั้นตอนไม่ยุ่งยากและปลูกได้ 2 วิธีคือปลูกลงในแปลงที่เตรียมดินไว้แล้ว และการปลูกโดยวิธีเพาะกล้าเมื่อได้กล้าพันธุ์ผักกาดตามขนาดที่ต้องการแล้วจึงย้ายไปปลูกในแปลง สำหรับคนที่สนใจปลูกผักกาดขายเป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงานจะเลือกใช้วิธีใดก็ได้ขึ้นอยู่กับความสะดวก แต่วิธีที่ผู้เขียนอยากจะแนะนำก็คือการเพาะกล้าพันธุ์ก่อนแล้วค่อยนำต้นกล้าไปปลูกลงในแปลงดิน เพราะเป็นวิธีที่สะดวกและประหยัดเมล็ดพันธุ์ ทำให้ได้ต้นผักกาดขาวที่สมบูรณ์ที่สุด ส่วนเมล็ดพันธุ์ผักกาดที่นิยมนำมาปลูก เช่นเมล็ดพันธุ์ตราช้าง ตราเครื่องบิน ตราดอกโบตั๋น หรือพันธุ์เทียนจิน การปลูกผักสวนครัว การดูแลและบำรุงรักษา ผักกาดเป็นผักที่ต้องการน้ำอย่างสม่ำเสมอจึงต้องรดน้ำให้ชุ่มอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งคือช่วงเช้าและเย็น และต้องใส่ปุ๋ยในช่วงเตรียมดินเพื่อเป็นปุ๋ยรองพื้น และใส่ปุ๋ยอีกครั้งเมื่อผักกาดขาวอายุประมาณ 20 วัน โดยใช้ปุ๋ยสูตร 20-10-10หากมีหนอนหรือเพลี้ยรบกวนอาจใช้สารเคมีที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคฉีดพ่นหรือใช้น้ำยาฆ่าแมลงที่ทำจากใบสะเดาซึ่งนอกจากปลอดภัยและดีต่อสุขภาพแล้วยังช่วยประหยัดต้นทุนอีกด้วย การเก็บเกี่ยว ผักกาดขาวจะตัดขายได้เมื่อมีอายุประมาณ 40-50 วันหรือ 50-80 วันขึ้นอยู่กับพันธุ์ที่นำมาปลูกราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 35-40 บาท การปลูกผักกาดขาวสามารถทำเป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงานได้เพราะการดูแลบำรุงรักษาไม่ยุ่งยากสามารถรถน้ำในช่วงก่อนไปทำงานและหลังจากเลิกงานแล้ว หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการปลูกผักสวนครัวอยู่แล้วปลูกผักกาดขาวเป็นอาชีพที่น่าสนใจค่ะ