เริ่มต้นขายเบเกอรี่เป็นอาชีพเสริมตอนที่2
ขายเบเกอรี่อาชีพเสริมสร้างรายได้ตอนที่2 การทำเบเกอรี่ขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ ที่ต้องใช้เงินลงทุนในการเลือกซื้ออุปกรณ์อย่างเช่น เครื่องอบ เครื่องตีไข่ และวัสดุอุปกรณ์อื่นๆ รวมถึงต้องมีการเรียนรู้วิธีทำเบเกอรี่ซึ่งอาจศึกษา และนำสูตรจากหนังสือหรือแหล่งข้อมูลความรู้ต่างๆแล้วนำมาทดลองทำ หรือเรียนเฉพาะอย่าง เช่นการทำเค้กวันเกิดหรือการทำขนมอบกรอบ เพราะจะมีการเปิดสอนเป็นคอร์สสั้นๆราคาไม่แพงมาก เมื่อเรียนรู้แล้วสามารถนำมาทำขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้โดยไม่ต้องเสียเวลาเรียนผิดเรียนถูกด้วยตนเองสำหรับคนที่สนใจหาอาชีพอิสระจากการขายเบเกอรี่แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี ผู้เขียนมีประสบการณ์ตรงของคนที่ประสบความสำเร็จในการทำเบเกอรี่ขายเป็นอาชีพอิสระมาแนะนำค่ะ จากจุดเริ่มต้นเล็กๆพัฒนามาเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้อย่างยั่งยืน ครอบครัวของคุณครูหน่อย หรือวลัยพร เป็นครอบครัวหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในการทำเบเกอรี่เป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้นอกจากเหนือจากเงินเดือนประจำจากการรับราชการครู การทำเบเกอรี่ขายเริ่มต้นจากสามีของครูหน่อยเป็นเซลส่งขนมที่ต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา ทำให้ไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัว ประกอบกับลูกๆกำลังอยู่ในช่วงวัยรุ่นที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ทำให้ครูหน่อยตัดสินใจซื้อเครื่องอบขนาดเล็ก และอุปกรณ์สำหรับทำเบเกอรี่เพื่อทำส่งให้กับร้านค้าในโรงเรียนและเป็นกิจกรรมที่จะได้ทำร่วมกับลูกๆช่วงเลิกเรียน ครูหน่อยเป็นคนที่ชื่นชอบการทำเบเกอรี่อยู่แล้ว จึงเลือกทำขนมง่ายๆ ราคาไม่แพงอย่างเช่น การทำเค้กชิ้นราคา 5 บาท และพายไก่ พายไส้กรอก เมื่อเริ่มมีความชำนาญมากขึ้นก็ทำออกขายกับลูกๆในช่วงวันหยุดเช่นตลาดนัด เพื่อให้เป็นรายได้ของลูกๆประกอบกับครูหน่อยเป็นคนที่รักการทำขนม เลือกใช้วัตถุดิบที่ดีและเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ในการแต่งหน้าเค้กทำให้เป็นที่ถูกใจของลูกค้า จนมีลูกค้าโทรศัพท์มาสั่งซื้อเค้กวันเกิดเป็นประจำ จากจุดเริ่มต้นเล็กๆที่ต้องการใช้เวลาว่างทำกิจกรรมกับลูกๆ ด้วยการทำเบเกอรี่เป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ ปัจจุบันสามีของครูหน่อยลาออกจากงานมาเปิดร้านกาแฟสด พร้อมกับขายเบเกอรี่ที่ทำเองและรับขนมประเภทอบกรอบมาขายเพิ่ม ครูหน่อยเล่าว่าทุกวันจะมียอดสั่งเค้กวันเกิดให้ทำไม่ได้หยุดโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ จนต้องส่งสามีไปเรียนการแต่งหน้าเค้กเพิ่มเติมเพื่อมาช่วยครูหน่อยอีกแรงหนึ่ง นอกจากขายเบเกอรี่แล้วครูหน่อยยังมีอาชีพเสริมที่เป็นผลมาจากการทำเบอเกอรี่ขายอีกทางหนึ่งด้วยค่ะ
เริ่มต้นขายเบเกอรี่เป็นอาชีพเสริมตอนที่1
ขายเบเกอรี่อาชีพเสริมสร้างรายได้ตอนที่1 เบเกอรี่ขนมหวานประเภทอบที่หลายคนชอบทาน หรือนิยมทานคู่กับน้ำชากาแฟ เป็นขนมหวานสไตล์ฝรั่งที่มีหลากหลายชนิด เหมาะสำหรับทำขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ ถึงแม้ขนมประเภทเบเกอรี่จะมีวิธีทำหลายขั้นตอนและต้องมีวัสดุอุปกรณ์อย่างเช่นเครื่องอบซึ่งราคาแพง เป็นอุปกรณ์หลัก แต่ก็เป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ที่น่าสนใจและน่าลงทุน เนื่องจากเป็นขนมหวานแนวฝรั่งที่มีหลายชนิดหลายประเภทคนส่วนใหญ่นิยมทานสามารถเลือกทำขายได้ตามความที่เราต้องการ อยากเริ่มต้นทำอาชีพเสริมสร้างรายได้ต้องกล้าที่จะลงทุน การเริ่มต้นทำเบเกอรี่ขาย อาจดูเป็นเรื่องยากสำหรับหลายๆคน ทั้งสูตรและวิธีทำรวมถึงอุปกรณ์ในการทำเบเกอรี่ซึ่งนอกจากเครื่องอบแล้วก็ยังต้องมีอุปกรณ์อื่นๆเช่น เครื่องตีไข่ ผู้เขียนอยากแนะนำว่าการที่จะเริ่มต้นทำอะไรสักอย่างเพื่อเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ต้องกล้าที่จะลงทุน เช่นต้องการทำเบเกอรี่ขายอุปกรณ์หลักอย่างเครื่องอบ และเครื่องตีไข่ถือว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะทำให้ขนมมีคุณภาพ รสชาติอร่อยไม่ผิดเพี้ยนไปจากสูตรดั้งเดิม หากเราต้องการทำเป็นเพียงอาชีพเสริมเพื่อให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นแนะนำให้เลือกซื้อเตาอบขนาดเล็กซึ่งราคาไม่แพงประมาณ 2-3 พันบาท รวมถึงอุปกรณ์สำหรับตีไข่ด้วยที่ต้องเลือกซื้อให้เหมาะกับชนิดของเบเกอรี่ที่เราต้องการทำขาย เมื่อได้อุปกรณ์สำหรับทำเบเกอรี่แล้วสิ่งที่เราต้องศึกษาต่อก็คือการเลือกชนิดของเบเกอรี่ที่ต้องการทำขายควรเน้นชนิดใดชนิดหนึ่งที่เราชอบทาน หรือคิดว่าเป็นขนมที่น่าจะทำขายได้แล้วลงมือศึกษาหรือทดลองทำอย่างจริงจัง เริ่มจากทดลองทำในปริมาณน้อยๆไปก่อนหรือเลือกเรียนทำเบเกอรี่คอร์สสั้นๆสอนเฉพาะอย่างเช่นสอนการทำเค้กวันเกิด หรือสอนทำขนมประเภทอบกรอบ ใช้เวลาเรียนสั้นๆราคาค่าเรียนประมาณ1,000-1,500 บาท ถือว่าไม่แพง การลงทุนเป็นหัวใจสำคัญในการหารายได้ ถึงแม้จะเป็นเพียงอาชีพเสริมสร้างรายได้ การเริ่มต้นขายเบเกอรี่ก็เช่นเดียวกันซึ่งจำเป็นที่จะต้องเลือกซื้อวัสดุอุปกรณ์หลักๆอย่างเช่นเตาอบและเครื่องตีไข่ หากเรามีเงินทุนไม่เพียงพอหรือไม่ต้องการอาชีพอิสระที่ใช้เงินลงทุนบ้างก็ต้องหลีกเลี่ยงและเลือกทำงานเสริมประเภทอื่นๆที่เหมาะกับงบประมาณของเราเป็นหลักค่ะ
ปลูกกล้วยไม้ตัดดอกขายอาชีพอิสระที่น่าสนใจ
ปลูกกล้วยไม้ตัดดอกขายเป็นอาชีพอิสระ อาชีพอิสระที่น่าสนใจของคนที่รักและชอบการปลูกต้นไม้โดยเฉพาะการปลูกไม้ตัดดอกขาย ซึ่งมีอยู่หลากหลายชนิด สำหรับคนที่สนใจอาชีพปลูกไม้ตัดดอกขายผู้เขียนแนะนำให้ปลูกกล้วยไม้ตัดดอกสายพันธุ์หวาย เป็นอาชีพอิสระที่น่าสนใจคะเพราะกล้วยไม้เป็นไม้ดอกที่เก็บไว้ได้นาน ดูแลไม่ยาก ราคาดีต้นกล้วยไม้ที่แก่หรือมีอายุการให้ดอกนานแล้วยังนำมาขายเป็นไม้ประดับได้อีกด้วย อาชีพอิสระที่ลงทุนครั้งเดียวรายได้หลายทาง กล้วยไม้พันธุ์หวายหรือสกุลหวาย เป็นกล้วยไม้ลูกผสมมีดอกหลากหลายสี และมีลักษณะเด่นคือมีช่อยาว ดอกบานทน และออกดอกตลอดทั้งปี เหมาะอย่างยิ่งที่จะนำมาปลูกเพื่อตัดดอกขายเป็นอาชีพอิสระที่น่าสนใจ เพราะวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการปลูกเมื่อเลิกใช้หรือมีการเปลี่ยนวัสดุอุปกรณ์ใหม่ก็สามารถนำมาขายเป็นอุปกรณ์มือสองได้ รวมถึงต้นกล้วยไม้ที่ปลูกแล้วยังสามารถแยกหน่อออกมาปลูกใหม่โดยไม่ต้องลงทุนซื้อกล้วยไม้มาปลูกเพิ่ม ส่วนต้นกล้วยไม้ที่ให้ดอกมานานและลำต้นเริ่มทรุดโทรมหรือให้ดอกคุณภาพต่ำก็ยังนำไปขายเพื่อใช้เป็นไม้ดอกไม้ประดับได้อีก ถือว่าเป็นอาชีพที่ใช้เงินลงทุนเพียงครั้งเดียวแต่สามารถขยายธุรกิจหรือปลูกกล้วยไม้มากขึ้นโดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนเพิ่ม การปลูกกล้วยไม้สกุลหวายเพื่อตัดดอกขายเป็นอาชีพอิสระที่น่าสนใจถึงแม้จะต้องศึกษาเรียนรู้และใช้เงินลงทุนสูง แต่ก็สามารถเริ่มต้นจากธุรกิจขนาดเล็กที่ใช้เงินลงทุนไม่มากปลูกเพียงเพื่อตัดขายให้กับร้านดอกไม้ภายในพื้นที่ เมื่อมีความรู้ความชำนาญแล้วก็สามารถขยายธุรกิจให้มีขนาดใหญ่ขึ้นได้ การปลูกกล้วยไม้สกุลหวายยังมีข้อดีหลายประการ นอกจากปลูกตัดดอกขายแล้วยังแยกหน่อหรือขยายพันธุ์ด้วยวิธีอื่นๆเพื่อนำไปขายเป็นกล้วยไม้กระถางได้อีกทางหนึ่ง ถือว่าเป็นอาชีพที่ใช้เงินลงทุนเพียงครั้งเดียวแต่มีรายได้เกิดขึ้นหลายช่องทาง สำหรับคนที่รักอาชีพเกษตรกรรมหรือชื่นชอบการปลูกต้นไม้อยู่แล้ว ปลูกกล้วยไม้สกุลหวายเพื่อตัดดอกขายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและน่าลงทุนอีกอาชีพหนึ่งค่ะ
ปลูกมะละกอเพื่อทำส้มตำอาชีพเสริมเพิ่มรายได้
ปลูกมะละกออาชีพเสริมเพิ่มรายได้ ส้มตำ เมนูอาหารเรียกน้ำย่อยที่เป็นได้ทั้งอาหารว่าง อาหารหลัก หรือเป็นกับข้าวทานคู่กับข้าวเหนียว ส้มตำเมนูยอดนิยมที่ทานกันได้ทุกภาคไม่เฉพาะแต่ภาคอีสานเท่านั้น วัตถุดิบในการทำส้มตำขายเป็นอาชีพหลักหรือขายเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ก็คือมะละกอ คนที่ทำส้มตำทานบ่อยๆหรือทำขายเป็นอาชีพอิสระจะเลือกมะละกอพันธุ์แขกดำและพันธุ์ครั่งเท่านั้นในการใช้ตำส้มเพราะเนื้อดี กรอบอร่อยสำหรับคนที่ต้องการมีอาชีพเสริมหรือต้องการมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ผู้เขียนแนะนำให้ปลูกมะละกอเพื่อทำส้มตำเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ค่ะ อาชีพเสริมเพิ่มรายได้ที่ไม่ต้องใช้พื้นที่ปลูกไม่มากแค่ปลูกไว้ตามแนวรั้ว หรือที่ว่างภายในบ้าน มะละกอที่นิยมนำมาทำตำส้มอย่างเช่นแขกดำ หรือพันธุ์ครั่ง จะมีเนื้อที่แน่นกรอบอร่อย ราคาดี โดยเฉพาะการปลูกขายในช่วงหน้าแล้งซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการดูแลมาก ทั้งการรดน้ำและใส่ปุ๋ยแต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับราคาขายซึ่งอยู่ในช่วงที่ตลาดกำลังต้องการ นอกจากปลูกเพื่อทำส้มตำขายแล้วมะละกอแต้มหรือมะละกอสุกก็ยังขายได้อีก การปลูกมะละกอแขกดำ หรือมะละกอพันธุ์ครั่งเพื่อขายให้กับร้านส้มตำ หากมีพื้นที่ปลูกมากก็ควรมีการบริหารจัดการให้สามารถหมุนเวียนเก็บมะละกอขายได้ตลอดทั้งปี พันธุ์มะละกอทั้งสองชนิดจะใช้เวลาปลูกประมาณ 6 เดือนก็สามารถเก็บผลผลิตขายได้ ข้อควรระวังในการเพาะพันธุ์มะละกอก็คือเมล็ดที่นำมาเพาะจะมีทั้งตัวผู้และตัวเมีย ก่อนการปลูกมะละกอเพื่อทำตำส้มเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้จึงควรศึกษารายละเอียดจากหนังสือเกี่ยวกับการปลูกมะละกอหรือหนังสือเกี่ยวกับการเกษตรรวมทั้งปรึกษาผู้รู้ผู้ที่มีประสบการณ์ในการปลูกมาก่อน จะทำให้ไม่เสียเวลาในการเรียนผิดเรียนถูกด้วยตัวเอง คนที่รักและชอบทำการเกษตร ปลูกมะละกอเพื่อใช้ทำตำส้มเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ที่ไม่ต้องมีพื้นที่มาก สามารถปลูกไว้ตามริมสระ พื้นที่ว่างภายในบริเวณบ้าน แนวรั้วหรือปลูกสลับกับไม้ผลอื่นๆหากมีพื้นที่สวนอยู่ก่อนแล้ว หรือต้องการให้ได้ราคาดีก็ควรเลือกปลูกขายในช่วงหน้าแล้งซึ่งเป็นช่วงที่มะละกอขาดตลาดหรือมีจำนวนน้อย หากสนใจปลูกมะละกอขายอย่าลังเลที่จะตัดสินใจและลงมือทำนะค่ะ
สูตรและวิธีทำสังขยาในลูกฟักทองเป็นอาชีพเสริม
อาชีพเสริมสร้างรายได้สังขยาในลูกฟักทอง ขนมหวานไทย นอกจากมีวิธีทำที่ละเอียดอ่อนหลายขั้นตอนแล้ว เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของขนมหวานไทยก็คือรูปร่างหน้าตาและความคิดสร้างสรรค์ที่ทำให้ขนมไทยน่าทานยิ่งขึ้น “สังขยาฟักทอง” หรือสังขยาในลูกฟักทอง เป็นขนมหวานอีกเมนูหนึ่งที่นิยมทำขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ เพราะมีความโดดเด่น สะดุดตาจากการนำสังขยาใส่ไว้ในลูกฟักทองขนาดเล็กทำให้เป็นขนมหวานที่น่าสนใจและน่าทานยิ่งขึ้น สำหรับคนที่สนใจทำสังขยาในลูกฟักทองขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ วันนี้ผู้เขียนมีสูตรและวิธีทำมาฝากค่ะ สูตรและวิธีทำสังขยาในลูกฟักทอง ส่วนประกอบ 1 ฟักทองแก่ลูกเล็กๆน้ำหนักประมาณ 500 กรัม 1 ลูก 2.ไข่เป็ด 3 ฟอง 3.ไข่ไก่ 1 ฟอง 4.หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง 5.น้ำตาลปีบหรือน้ำตาลมะพร้าว ¼ ถ้วยตวง 6.เกลือป่น ¼ ช้อนชา วิธีทำ 1.นำฟักทองมาล้างทำความสะอาด แล้วใช้มีดคมๆเฉือนเป็นรูปสี่เหลี่ยมบริเวณขั้วแล้วค่อยๆดึงออกมาเพื่อใช้ทำเป็นฝา 2.ใช้ช้อนหรือปลายมีดคว้านเมล็ดและไส้ออกให้หมดล้างทำความสะอาดอีกครั้งแล้วพักไว้ 3.ทำตัวสังขยาโดยตอกไข่ใส่ภาชนะ เติมหัวกะทิ น้ำตาลปีบ เกลือ จากนั้นคนให้ส่วนผสมเข้ากัน 4.นำส่วนผสมที่ได้มากรองด้วยกระชอนแล้วนำไปเทใส่ในลูกฟักทองไม่ต้องใส่เต็มมาก เพราะเวลานึ่งเนื้อสังขยาจะขยายตัวออกมาจนเต็มลูกฟักทอง 5.จากนั้นนำไปนึ่งใช้ไฟแรงปานกลาง หากต้องการให้เนื้อสังขยาเนียนละเอียดให้นึ่งไฟอ่อนๆ ประมาณ 40-45 นาทีหรือจนกว่าฟักทองจะสุข