วิธีทำขนมทองหยิบขนมไทยโบราณแบบดั้งเดิมขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้
ทำขนมทองหยิบขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ “ขนมทองหยิบ” ขนมไทยชื่อเป็นมงคลที่นิยมทำขายเป็นอาชีพอิสระหรือทำขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ เพื่อนำมาใช้เป็นของหวานในงานพิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานทำบุญขึ้นใหม่ งานแต่งงาน งานบวช หรืองานมงคลอื่นๆ ขนมไทยโบราณมีวิธีการและขั้นตอนการทำที่ละเอียดอ่อนหลายขั้นตอน ในปัจจุบันมีการประยุกต์ปรับปรุงสูตรและวิธีการทำให้สะดวกรวดเร็วโดยใช้เทคโนโลยีหรือเครื่องมือใหม่ๆมาใช้ในการทำแทนวิธีทำแบบดั้งเดิม นอกจากจะทำให้รสชาติหรือรูปทรงเปลี่ยนไปแล้ว ยังทำให้ความเป็นเอกลักษณ์ของขนมไทยโบราณซึ่งเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของขนมไทยหมดไปอีกด้วย วิธีทำขนมทองหยิบแบบดั้งเดิม เพื่อให้ขนมทองหยิบยังคงเอกลักษณ์ความเป็นขนมไทยโบราณ วันนี้ผู้เขียนมีสูตรและวิธีการทำแบบดั้งเดิมมาฝากสำหรับคนที่ต้องการทำขนมขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ เรามาดูวิธีทำกันเลยค่ะ สูตรและวิธีทำขนมทองหยิบ ส่วนผสม ไข่เป็ด 5 ฟอง น้ำเชื่อมสำหรับหยอดขนม(ใช้น้ำตาลทราย 4 ถ้วยตวง น้ำเปล่า 2 ถ้วย เคี่ยวจนได้น้ำเชื่อมตามที่ต้องการแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง) น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง น้ำลอยดอกมะลิ 2 ถ้วยตวง วิธีทำขนมทองหยิบ 1.นำน้ำตาลทรายที่เตรียมไว้ใส่ในภาชนะเติมน้ำลอยดอกมะลิตั้งไฟเคี่ยวไฟกลาง จนน้ำตาลละลายแล้วพักไว้ 2.แยกไข่แดงออกจากไข่ขาว โดยใช้เฉพาะไข่แดง จากนั้นตีไข่แดงจนขึ้นฟู 3.นำน้ำเชื่อมสำหรับยอดใส่ในกระทะทองเหลืองตั้งไฟ เมื่อน้ำเชื่อมเริ่มร้อนจัดแต่ไม่ต้องรอให้เดือดพล่าน ใช้ช้อนตักไข่ที่ตีไว้หยอดลงในน้ำเชื่อม 4.ไข่ที่หยอดจะแผ่เป็นวงกลม ใช้ช้อนกลับด้านเพื่อให้ไข่สุก จากนั้นตักแช่ในน้ำเชื่อมที่พักไว้ 5.จากนั้นจึงตักใส่ถ้วยตะไล ใช้มือหรือไม้จิ้มฟันจับจีบเป็นดอก เคล็ดลับความอร่อยของขนมไทยโบราณอย่างเช่นขนมจีบ อยู่ที่ความละเอียดในการทำน้ำเชื่อมควรใช้ไฟอ่อนถึงไฟกลางในการเคี่ยวจะทำให้ได้น้ำเชื่อมที่ข้นหวาน
วิธีทำขนมครกขนมไทยสูตรโบราณทำเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้
วิธีทำขนมครกขนมไทยสูตรโบราณทำเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ ขนมครก ขนมไทยสูตรโบราณที่เหมาะสำหรับทำเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ เพราะใช้เงินลงทุนต่ำ ทำง่าย ใช้เวลาขายเพียงไม่กี่ชั่วโมงเป็นขนมไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งขั้นตอนและวิธีทำรวมถึงอุปกรณ์ในการทำขนม เป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ที่มีจุดขายอยู่ในตัวเอง ถึงแม้ปัจจุบันขนมครกจะมีการประยุกต์และดัดแปลงสูตรเพื่อให้สะดวกและรวดเร็วในการทำขาย แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นขนมไทยโบราณเอาไว้ สำหรับสูตรและวิธีทำมีรายละเอียดและขั้นตอนตามนี้เลยค่ะ ส่วนผสมและวิธีทำขนมครก ส่วนผสมตัวแป้ง 1.ใช้แป้งสำเร็จเป็นแป้งข้าวเจ้าอย่างดี 1000 กรัม 2.มะพร้าวขูด 1000 กรัม นำมาใส่โถปั่นแล้วกรองเอาแต่น้ำ 4 ถ้วยตวง 3.น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง 4.เกลือป่น 1 ½ ช้อนชา 5.น้ำตาล 1 ½ ช้อนโต๊ะ 6.น้ำปูนใส 2 ถ้วยตวง 7.ต้นหอมซอย 1 ถ้วยตวง วิธีผสมแป้งทำตัวขนมครก เทแป้งข้าวเจ้าผสมกับน้ำสะอาดที่เตรียมไว้ ใส่น้ำปูนใสคนแป้งให้ละลายไม่จับตัวเป็นเม็ดเติมน้ำกะทิ น้ำตาล และเกลือ คนให้ส่วนผสมละลาย ส่วนผสมหน้าขนมครก 1.หัวกะทิ 5 ถ้วยตวง 2.หางกะทิ 3
ปลูกผักพื้นบ้านปลูกผักติ้วขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้
ปลูกผักติ้วขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ การปลูกผักพื้นบ้านขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ที่ดี เพราะผักพื้นบ้านหลายชนิดนิยมนำมาประกอบอาหารหรือทานเป็นเครื่องเคียง บางชนิดมีเฉพาะในท้องถิ่นทำให้สามารถเก็บขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ที่ดี ผักติ้วเป็นผักพื้นบ้านที่มีอยู่ในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ตอนเหนือ นิยมทานเป็นผักเคียงคู่กับอาหารรสจัดอย่างเช่น น้ำพริก ลาบ น้ำตก ส้มตำ และแหนมเนือง ผักติ้วนอกจากนำมาทานเป็นผักแล้ว จากผลงานการวิจัยของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นพบว่าใบติ้วมีสรรพคุณในการยับยั้งเซลล์มะเร็งได้ ปลูกผักพื้นบ้านขายเป็นอาชีพเสริม ผักติ้ว เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ความสูงของต้นประมาณ 3-12 เมตร เป็นผักพื้นบ้านที่ชอบขึ้นอยู่ตามป่าดิบแล้ง ป่าโปร่ง ป่าเต็งรัง ป่าตามเชิงเขาและตามป่าเบญจพรรณขยายพันธุ์ได้ด้วยวิธีใช้เมล็ด ส่วนที่ใช้รับประทานก็คือใบอ่อนและยอดอ่อน เป็นไม้ผลัดใบที่ทนแล้งเหมาะสำหรับนำมาปลูกเพื่อเก็บยอดขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ ประโยชน์และสรรพคุณของผักติ้ว 1.ยอดอ่อน ใบอ่อนนำทานเป็นผักสด ส่วนดอกนำมาประกอบอาหารได้ 2.ใช้น้ำยางจากเปลือกของลำต้นทารอยแตกของส้นเท้า หรือใช้ทาแก้อาการคัน 3.เป็นผักที่มีวิตามินสูง มีสรรพคุณช่วยรักษาโรคตาไก่ 4.ใบติ้วขนสามารถนำมาใช้แทนพลาสเตอร์ปิดแผลเพื่อใช้ปิดปากแผลได้ 5.การทานใบและยอดอ่อนเป็นประจำช่วยแก้อาการปวดตามข้อ แก้ไขข้อพิการ 6.เปลือกและใบนำมาตำผสมกับน้ำมันมะพร้าวใช้ทาแก้โรคผิวหนังบางชนิดได้ 7.จากผลงานการวิจัยพบว่าการรับประทานใบติ้วเป็นประจำมีสรรพคุณช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งตับได้ การขยายพันธุ์ผักติ้ว 1.นำเมล็ดที่แก่จัดมาตากแดดให้แห้งจนแตกหรือทุบเบาๆล่อนเอาแต่เมล็ด 2.นำเมล็ดที่ได้หว่านลงในแปลงเพาะ รดน้ำให้ชุ่มอยู่เสมอ 3.ประมาณ 60 วันเมื่อต้นกล้าเริ่มมีใบจริงประมาณ 2-3 ใบ
ทำขนมอะไรขายดีทำง่ายทุนน้อยแต่กำไรดีเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้
ทำขนมขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ หลายคนมองหาอาชีพเสริมสร้างรายได้ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย “ทำขนมขาย” เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจและทำง่ายเพราะนอกจากทำขายด้วยตนเองแล้วก็ยังสามารถรับขนมทำสำเร็จมาขายต่อซึ่งมีอยู่มากมายหลายชนิด แต่ก็อาจมีคู่แข่งมากโดยเฉพาะการทำเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ที่มีข้อจำกัดในเรื่องของเวลาเพราะเป็นเพียงการหารายได้พิเศษนอกเหนือไปจากงานประจำ ควรเลือกขายขนมไทยที่ทำใหม่ๆหรือทำขายร้อนๆเพื่อให้มีจุดขายและไม่มีคู่แข่งหรือคู่แข่งยังมีไม่มาก ทำขนมอะไรขายดีทำง่ายทุนน้อยแต่กำไรดี สำหรับคนที่ต้องการหารายได้จากการทำขนมขายในวันหยุดหรือทำขายในช่วงหลักเลิกงานแต่ยังคิดไม่ออกว่าจะทำขนมอะไรดีเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ ผู้เขียนมีรายชื่อขนมไทยที่ทำง่ายและเป็นที่นิยมของคนทานมาแนะนำค่ะ 1. ขนมบัวลอยไข่หวาน เป็นขนมไทยโบราณที่มีขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยากอุปกรณ์สำหรับทำขายมี ไม่มาก นิยมขายในช่วงเย็นๆตามตลาดนัดตลาดโต้รุ่งหรือขายอยู่ตามหน้าร้านอาหารเป็นขนมที่ทำง่ายลงทุนน้อยน้อยแต่กำไรดีค่ะ 2.ขนมถ้วยหรือวุ้นหน้าต่างๆ ขนมประเภทนี้นอกจากทำขายเองแล้ว ยังสามารถนำไปฝากขายตามร้านอาหารที่ขายอาหารตามสั่ง ร้านขายอาหารจานเดียว ร้านขายข้าวราดแกง หรือแม้แต่ร้านขายก๊วยเตี๋ยว เพราะเป็นของหวานที่นิยมทานหลังจากทานอาหารแล้ว 3.ข้าวเกรียบปากหม้อ หรือสาคูไส้หมู ขนมประเภทนี้ขายดีเพราะเป็นขนมหวานหรือของว่างที่ทำขายร้อนๆทานได้ทุกเวลา 4.กล้วยปิ้ง เป็นขนมหวานหรือของว่างที่ใช้เงินลงทุนน้อย ขายง่ายและกำไรดี คนนิยมทานแต่หาทานยากมากเพราะมีขั้นตอนการทำที่ต้องมีความละเอียดอ่อนและใส่ใจทุกขั้นตอนเนื่องจากต้องใช้ไฟถ่านในการปิ้ง 5.ขายขนมไทยอบแห้ง อย่างเช่น วุ้นกรอบ ฝอยทองกรอบ มะพร้าวแก้ว กล้วยฉาบ เผือกฉาบ หรือมันฉาบ ขนมประเภทนี้ไม่ต้องทำเองเพราะมีขายส่งแบบยกถุง สามารถนำมาแพ็คให้สวยงามฝากขายตามร้านอาหาร ร้านขายของชำ หรือร้านขายกาแฟสดขายเครื่องดื่มต่างๆ อาชีพเสริมสร้างรายได้มีให้เราเลือกทำมากมายค่ะ แต่ต้องกล้าที่จะเริ่มต้นไม่แน่นะคะการหารายได้จากจุดเล็กๆอาจพัฒนาต่อยอดให้เป็นธุรกิจหรือทำเป็นอาชีพหลักในอนาคตได้ไม่ลองก็คงไม่รู้เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ
สูตรวิธีทำแกงเห็ดขอนขาวใบย่านางอาหารท้องถิ่นที่หาทานยาก
อาหารท้องถิ่นแกงเห็ดขอนขาวใบย่านางอาชีพเสริมสร้างรายได้ “แกงเห็ดขอนขาวใบย่านาง” อาหารท้องถิ่นที่นอกจากรสชาติอร่อยถูกปากถูกใจคนที่ได้ทานแล้ว ยังเป็นเมนูอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เหมาะสำหรับเป็นเมนูเด็ดของคนที่เปิดร้านขายอาหารอยู่แล้ว หรือจะทำขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ โดยเน้นการขายอาหารพื้นบ้าน หรืออาหารท้องถิ่นที่หาทานยากอย่างเช่นเมนูแกงเห็ดขอนขาวใบย่านาง เพราะ ปัจจุบันอาหารท้องถิ่นถูกดัดแปลงสูตรและส่วนผสมจนทำให้รสชาติแบบดั้งเดิมเปลี่ยนแปลงไป การทำอาหารท้องถิ่นขายจึงเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ที่น่าสนใจ สูตรวิธีทำแกงเห็ดขอนขาวใบย่านาง สำหรับคนที่เปิดร้านขายอาหารอยู่แล้ว การเพิ่มเมนูอาหารท้องถิ่นอย่างเช่น แกงเห็ดขอนขาวใบย่านางซึ่งปรุงตามสูตรและส่วนผสมแบบดั้งเดิม เป็นการสร้างจุดขายให้กับธุรกิจได้ ส่วนคนที่ชื่นชอบการทำอาหารและมีงานประจำอยู่แล้วหากต้องการมีอาชีพอิสระ ทำแกงเห็ดขอนขาวใบย่านางขายตามตลาดนัดในช่วงวันหยุดถือว่าเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ที่ดี หรืออาจจะทำสลับสับเปลี่ยนกับเมนูอาหารท้องถิ่นที่น่าสนใจอื่นๆเพื่อให้ลูกค้าได้เลือกทานโดยไม่รู้สึกเบื่อเมนูแกงเห็ดขอนขาวใบย่านางมีส่วนผสมและขั้นตอนการทำง่ายๆ ตามนี้ค่ะ สูตรวิธีทำแกงเห็ดขอนขาวใบย่านาง ส่วนผสม 1.เห็ดขอนขาว 200 กรัม(หรือจะใช้เห็นชนิดอื่นๆใส่ด้วยก็ได้เช่น เห็ดเข็มทอง เห็ดนางฟ้า) 2.น้ำใบน่านางคั้นสด 1 ถ้วย 3.พริกขี้หนูสวนบุบพอแตก 4.ชะอมเด็ดยอด 50 กรัม 5.น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ 6.น้ำมะนาว 1 ช้อนชา 7.เกลือป่นเล็กน้อย 8.ใบชะพลูซอยหยาบๆ 10 ใบ 9.น้ำซุบผัก 1 ถ้วย (ใช้หัวไช้เท้า กะหล่ำต้มใส่เกลือเล็กน้อย) วิธีทำแกงเห็ดขอนขาว