วิธีการปลูกผักคะน้าปลูกขายเป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงาน
วิธีการปลูกผักคะน้าปลูกขายเป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงาน การปลูกผักสวนครัวไว้ทานเองนอกจากช่วยลดค่าใช้จ่ายภายในครัวเรือนแล้วหากทานไม่หมดก็ยังนำไปขายทำให้เกิดรายได้พิเศษหรือจะปลูกขายเป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงานเป็นการหารายได้เพิ่มที่ไม่ยุ่งยาก และไม่มีผลกระทบกับงานประจำเพราะการบำรุงรักษา รดน้ำพรวนดินใช้เวลาในช่วงก่อนและหลังเลิกงานดูแลได้ ผักคะน้าเป็นผักเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่งที่น่าสนใจนำมาปลูกขายเป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงานเพราะเป็นผักที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพปลูกไม่ยากและยังขายง่ายเป็นที่ต้องการของตลาด วิธีการปลูกผักคะน้า ผักคะน้าเป็นผักที่ปลูกได้ตลอดทั้งปี การปลูกผักคะน้าเป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงานสามารถปลูกได้ทั้งในแปลงดินหรือปลูกในภาชนะโดยการเพาะกล้าแล้วนำมาปลูกลงในแปลงหรือปลูกในภาชนะตามที่ต้องการ ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ 1.การเพาะกล้าคะน้าสามารถเพาะได้ 2 วิธีคือ เพาะในถาดพลาสติกเพาะกล้า และเพาะในแปลงดิน 2.การเพาะในถาดพลาสติกให้เตรียมดินผสมปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกในอัตรา 2:1 แล้วนำดินที่ผสมแล้วใส่ลงในถาดพลาสติกเพาะกล้า ใช้เศษไม้กดลงในดินให้เป็นหลุมลึกประมาณ 0.5 ซม.จากนั้นหยอดเมล็ดผักคะน้า 1-2 เม็ดแล้วกลบรดน้ำ ประมาณ 1 สัปดาห์เมล็ดคะน้าจะเริ่มงอก เมื่อต้นคะน้ามีอายุ 20-25 วันจึงย้ายไปปลูกในภาชนะหรือแปลงปลูกที่เตรียมไว้ 3.การเพาะในแปลงดิน 4.เก็บเกี่ยวผลผลิต ประโยชน์ของผักคะน้า 1.ทานคะน้า 100 กรัมร่างกายจะได้รับแคลเซียมสูงถึง 245 มิลลิกรัมทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง 2.คะน้ามีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยยับยั้งการเกิดมะเร็ง 3.ในคะน้ามีแคลเซียมสูง ซึ่งมีสรรพคุณช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนได้ 4.ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานในร่างกายทำให้มีสุขภาพแข็งแรง 5.ผักคะน้ามีโฟเลตสูงซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับหญิงมีครรภ์ที่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการพิการแต่กำเนิดของเด็กทารก 6.ในคะน้ายังมีวิตามินหลายชนิด เช่น แบต้าแคโรทีนที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ มะเร็งปอด และมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ 7.ยอดคะน้าสดอุดมไปด้วยวิตามินซีซึ่งช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อให้ชุ่มชื้นทำให้ระบบภูมิคุ้มกันโรคแข็งแรง 8.ช่วยป้องกันโรคโลหิตจางและเลือดออกตามไรฟัน