วิธีทำผัดคะน้าคะน้าปลาเค็มเคล็ดลับความอร่อย
ทำผัดคะน้าคะน้าปลาเค็ม ขายเป็นอาชีพอิสระ อาชีพอิสระที่ datacatalog.org เคยแนะนำไปแล้วในบทความก่อนๆ เช่นอาชีพขายข้าวต้มโต้รุ่ง ทำอาหารหรือทำแกงถุงขาย ส่วนบทความในวันนี้เรามีวิธีทำ ผัดคะน้าปลาเค็มเมนูอาหารที่เหมาะ สำหรับทานคู่กับข้าวต้มหรือข้าวสวยร้อนๆ มาต่อยอดธุรกิจให้ค่ะ ผัดคะน้าปลาเค็มเป็นเมนูง่ายๆ ที่เชื่อว่าใครๆก็ทำอร่อย แต่การทำอาหารขายเป็นอาชีพอิสระ ความอร่อยอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอหน้าตาอาหารต้องน่าทานด้วย เรามาดูเครื่องปรุงและวิธีทำกันเลยค่ะ เครื่องปรุงและวิธีทำคะน้าปลาเค็ม เครื่องปรุง ปลาอินทรีย์เค็มน้ำหนักประมาณ 50 กรัม 1 ชิ้น คะน้าต้นใหญ่ๆปอกเปลือกที่ก้าน และตัดใบแก่ออก 4 ต้น พริกขี้หนูสวนบุบพอแตก 5 เม็ด กระเทียมสับ 5 กลีบ น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช วิธีทำคะน้าปลาเค็ม 1.นำต้นคะน้าแช่น้ำแล้วล้างให้สะอาด ส่วนก้านให้หั่นเฉียงๆใบ และยอดตัดเป็นท่อนๆใส่จานพักไว้ 2.ใส่น้ำมันลงในกระทะตั้งไฟ นำปลาอินทรีย์ลงไปทอดจนสุกสีเหลืองสวย แล้วตักขึ้นพักไว้
วิธีการปลูกผักคะน้าปลูกขายเป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงาน
วิธีการปลูกผักคะน้าปลูกขายเป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงาน การปลูกผักสวนครัวไว้ทานเองนอกจากช่วยลดค่าใช้จ่ายภายในครัวเรือนแล้วหากทานไม่หมดก็ยังนำไปขายทำให้เกิดรายได้พิเศษหรือจะปลูกขายเป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงานเป็นการหารายได้เพิ่มที่ไม่ยุ่งยาก และไม่มีผลกระทบกับงานประจำเพราะการบำรุงรักษา รดน้ำพรวนดินใช้เวลาในช่วงก่อนและหลังเลิกงานดูแลได้ ผักคะน้าเป็นผักเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่งที่น่าสนใจนำมาปลูกขายเป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงานเพราะเป็นผักที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพปลูกไม่ยากและยังขายง่ายเป็นที่ต้องการของตลาด วิธีการปลูกผักคะน้า ผักคะน้าเป็นผักที่ปลูกได้ตลอดทั้งปี การปลูกผักคะน้าเป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงานสามารถปลูกได้ทั้งในแปลงดินหรือปลูกในภาชนะโดยการเพาะกล้าแล้วนำมาปลูกลงในแปลงหรือปลูกในภาชนะตามที่ต้องการ ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ 1.การเพาะกล้าคะน้าสามารถเพาะได้ 2 วิธีคือ เพาะในถาดพลาสติกเพาะกล้า และเพาะในแปลงดิน 2.การเพาะในถาดพลาสติกให้เตรียมดินผสมปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกในอัตรา 2:1 แล้วนำดินที่ผสมแล้วใส่ลงในถาดพลาสติกเพาะกล้า ใช้เศษไม้กดลงในดินให้เป็นหลุมลึกประมาณ 0.5 ซม.จากนั้นหยอดเมล็ดผักคะน้า 1-2 เม็ดแล้วกลบรดน้ำ ประมาณ 1 สัปดาห์เมล็ดคะน้าจะเริ่มงอก เมื่อต้นคะน้ามีอายุ 20-25 วันจึงย้ายไปปลูกในภาชนะหรือแปลงปลูกที่เตรียมไว้ 3.การเพาะในแปลงดิน 4.เก็บเกี่ยวผลผลิต ประโยชน์ของผักคะน้า 1.ทานคะน้า 100 กรัมร่างกายจะได้รับแคลเซียมสูงถึง 245 มิลลิกรัมทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง 2.คะน้ามีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยยับยั้งการเกิดมะเร็ง 3.ในคะน้ามีแคลเซียมสูง ซึ่งมีสรรพคุณช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนได้ 4.ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานในร่างกายทำให้มีสุขภาพแข็งแรง 5.ผักคะน้ามีโฟเลตสูงซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับหญิงมีครรภ์ที่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการพิการแต่กำเนิดของเด็กทารก 6.ในคะน้ายังมีวิตามินหลายชนิด เช่น แบต้าแคโรทีนที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ มะเร็งปอด และมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ 7.ยอดคะน้าสดอุดมไปด้วยวิตามินซีซึ่งช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อให้ชุ่มชื้นทำให้ระบบภูมิคุ้มกันโรคแข็งแรง 8.ช่วยป้องกันโรคโลหิตจางและเลือดออกตามไรฟัน