เคล็ดลับความอร่อยในการทำอาหารขายตอนที่ 2
เคล็ดลับความอร่อยทำอาหารขายตอนที่ 2 การทำอาหารให้อร่อยไม่ใช่เรื่องยาก โดยเฉพาะคนที่มีความสนใจและชื่นชอบการทำอาหารอยู่แล้ว หากต้องการทำขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้หรือเปิดร้านขายอาหารเป็นอาชีพหลัก เคล็ดลับง่ายๆก็คือการเลือกใช้เครื่องปรุงที่ดีและมีคุณภาพ ถึงแม้จะมีราคาแพงแต่ก็คุ้มกับการลงทุน เพราะเมื่อลูกค้าถูกใจในรสชาติและเชื่อถือในฝีมือการทำอาหารแล้ว ไม่ว่าจะทำอะไรออกมาขายก็สามารถเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ที่ดีเพราะจะมีกลุ่มลูกค้าตามมาอุดหนุนหรือซื้ออาหารและสินค้าที่เราทำออกมาขาย เพราะเชื่อถือในฝีมือการปรุงอาหารของเราเป็นทุนอยู่แล้ว ทุกอย่างจะต้องใหม่สดไม่ว่าจะเป็นผักผลไม้หรือเนื้อสัตว์ เคล็ดลับการทำอาหารให้อร่อยเพื่อทำเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้นอกจากการเลือกใช้เครื่องปรุงที่ดีและมีคุณภาพแล้ว การเลือกซื้อวัตถุดิบอย่างเช่นผัก ผลไม้ หรือเนื้อสัตว์เพื่อนำมาประกอบอาหารก็มีส่วนสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน เพราะการใช้วัตถุดิบที่มีความสดใหม่ทำให้รสชาติอาหารไม่ผิดเพี้ยน และน่ารับประทานยิ่งขึ้น เคล็ดลับการเลือกเนื้อสัตว์และผักสด – การเลือกเนื้อหมู เนื้อหมูสามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลายชนิดแต่การเลือกใช้เนื้อหมูให้เหมาะกับอาหารแต่ละประเภทก็มีส่วนทำให้การปรุงอาหารมีรสชาติยิ่งขึ้น เช่น การทำหมูแดงควรเลือกใช้เนื้อหมูสันใน ส่วนการทำแกงจืดควรใช้หมูสามชั้นหรือเนื้อหมูบดปนมัน – การเลือกเนื้อวัว ถ้านำไปปรุงอาหารที่เป็นเมนูผัดควรเลือกเนื้อสะโพก เพราะเป็นเนื้อที่มีความนุ่ม และไม่เหนียวจนเกินไป – การเลือกอาหารประเภทกุ้ง ปลา ปลาหมึก หอย หรือปู เมื่อเลือกซื้อมาแล้วต้องเก็บไว้ในตู้เย็นหรือในลังน้ำแข็งอย่างดีเพราะเป็นอาหารที่เน่าเสียง่าย – การเลือกซื้อผักมีวิธีการเลือกผักแต่ละชนิดไม่เหมือนกัน เช่น การเลือกซื้อผักบุ้ง หากนำมาทำแกงส้ม แกงเทโพ ต้องเลือกที่มีก้านอวบ ใบน้อย หากนำมาผัดทานคู่กับน้ำพริกควรเลือกยอดเรียวๆ – ผักสดที่ดีต้องมีลักษณะสดใหม่ ไม่เหี่ยวช้ำหรือเน่า ควรมีรอยกัดแหว่งของแมลงอยู่บ้างเพราะแสดงว่าผักที่เราเลือกปลอดจากสารเคมีตกค้าง ทราบเคล็ดลับในการทำอาหารให้อร่อยกันแล้ว
เคล็ดลับความอร่อยในการทำอาหารขาย ตอน1
เคล็ดลับความอร่อยในการทำอาหารขาย การทำอาหารขายเพื่อเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้หรือทำเป็นอาชีพหลัก หากมีฝีมือหรือปรุงอาหารได้อร่อยถูกปากคนทาน ไม่ว่าจะเปิดร้านขายอยู่ในทำเลที่ดีหรือเปิดเป็นร้านเล็กๆขายอยู่กับบ้านก็มักจะมีลูกค้าตามไปทานตามไปอุดหนุนอยู่เสมอ การทำอาหารให้อร่อยมีรสชาติถูกใจลูกค้าหรือคนทาน ถือเป็นจุดขายสำคัญอันดับแรกที่จะทำให้ประสบความสำเร็จสามารถทำเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ตามที่เราต้องการ หลายคนลงทุนเรียนทำอาหารหรือซื้อตำราอาหารมาศึกษาเรียนรู้ด้วยตัวเอง ก็อาจเป็นวิธีที่ถูกต้องแต่สำหรับคนที่ไม่มีเวลา มีเงินทุนน้อยแต่รักและชื่นชอบการทำอาหารไม่ต้องเสียเวลาหรือลงทุนไปเรียนค่ะ เพราะวันนี้ ผู้เขียนมีเคล็ดลับความอร่อยแบบง่ายๆมาแนะนำ แนวคิดที่ถูกต้องการทำอาหารให้อร่อยก็ไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยาก เคล็ดลับการทำอาหารให้อร่อยไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากค่ะ หากคุณชื่นชอบและมีความสุขในการทำอาหารอยู่แล้วสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการประกอบอาหารทุกประเภทก็คือการเลือกใช้เครื่องปรุงและวัตถุดิบที่มีคุณภาพรวมถึงการมีแนวคิดที่ถูกต้อง บางคนไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้เพราะคิดว่าเป็นการเพิ่มต้นทุนให้สูงขึ้นโดยเฉพาะการขายอาหารเพื่อเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ เพราะทำขายไม่มากและอาจทำขายเป็นบางครั้งบางคราวไม่ได้คาดหวังว่าต้องมีลูกค้าประจำ นั้นคือการมีแนวคิดที่ไม่ถูกต้อง เครื่องปรุงมีส่วนสำคัญมาก จะเห็นว่าร้านอาหารที่มีเมนูเด็ดมักจะมีสูตรเฉพาะตัว อาหารอย่างเดียวกันมีรูปร่างหน้าตาและส่วนประกอบเหมือนกันแต่รสชาติแตกต่างกัน นอกจากเรื่องของการเลือกใช้เครื่องปรุงแล้ว วัตถุดิบต่างๆก็มีวิธีเลือกซื้อที่ถูกต้องทั้งประเภทผักสด หรือเนื้อสัตว์ สิ่งเหล่านี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นที่สำคัญสำหรับการประกอบอาหารให้อร่อย ความสำเร็จทุกอย่างต้องเริ่มต้นจากตัวเรา การทำอาหารขายเพื่อเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ก็เช่นเดียวกันค่ะ สิ่งเล็กๆน้อยๆที่เรามองข้ามอาจเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราไม่ประสบความสำเร็จหรือมีรายได้ตามที่ต้องการ เพียงเรามองให้ไกลและมีแนวคิดที่ถูกต้องการทำอาหารให้อร่อยก็ไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยาก เมื่อทำได้แล้วก็สามารถดัดแปลงหรือคิดเมนูใหม่ๆได้เองค่ะ
ปลูกถั่วพูขายอาชีพเสริมเพิ่มรายได้
ปลูกถั่วพูขายอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ ถั่วพู เป็นผักดิบที่นิยมทานคู่กับน้ำพริก ผักอ่อนๆจะกรอบอร่อยทานคู่กับน้ำพริกได้ทุกประเภทนอกจากทานคู่กับน้ำพริกแล้วถั่วพูยังใช้ประกอบอาหารได้อีกหลายเมนู ปลูกถั่วพูขายเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ที่ปลูกง่าย ใช้พื้นที่ไม่มากและเป็นพืชผักที่ขายง่ายกำไรดีเหมาะสำหรับปลูกเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ เพราะถั่วพูเป็นผักที่เก็บไว้ได้ไม่นาน พ่อค้าแม่ค้าจึงไม่นิยมรับมาขายครั้งละมากๆทำให้ถั่วพูขาดตลาดและมีราคาแพง เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการปลูกต้นไม้ปลูกถั่วพูเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ การปลูกถั่วพูขายเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ที่ไม่จำเป็นต้องปลูกครั้งละมากๆแต่ปลูกให้เพียงพอสำหรับขายส่งให้กับพ่อค้าแม่ค้าหรือร้านอาหารเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอก็ทำให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นแล้ว การปลูกถั่วพูใช้พื้นที่ไม่มาก หากมีพื้นว่างบริเวณหลังบ้านหรือข้างบ้านก็สามารถปลูกถั่วพูขายได้หรือไม่มีพื้นที่ว่างก็ยังปลูกบริเวณรั้วบ้านได้ ช่วงเดือน เมษายน – มิถุนายน ถั่วพูจะมีราคาแพงมากถึงกิโลกรัมละ 200-250 บาท ถั่วพูยังเป็นพืชผักที่ทานได้เกือบทุกส่วนของลำต้นขึ้นอยู่กับความนิยมของคนในท้องถิ่น แต่ที่นิยมทานกันทั่วๆไป ก็คือทานเป็นผักดิบ ผักลวก หรือนำมาเป็นส่วนประกอบในอาหารเช่นเมนูยำถั่วพู หรือใช้เป็นผักสำหรับแกงป่าและยังมีเมนูอื่นๆอีกมากมายที่ใช้ถั่วพูเป็นผักเคียงสำหรับคนที่มีพื้นที่ในบริเวณบ้าน การปลูกถั่วพูโดยวิธีทำค้างซึ่งทำได้หลายแบบช่วยทำให้บริเวณมีความร่มรื่นสวยงามมีความเป็นธรรมชาติ การบำรุงรักษาทั้งการรดน้ำพรวนดินใส่ปุ๋ยยังเป็นกิจกรรมที่ทำให้ได้ออกกำลังกายที่เป็นผลดีต่อสุขภาพทั้งของตัวเองและคนในครอบครัว หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังมองหาอาชีพอิสระเสริม หากชื่นชอบการปลูกต้นไม้หรือชอบทำการเกษตร ปลูกถั่วพูเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ที่นอกจากทำให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังได้ปลูกต้นไม้ได้ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติได้ทำในสิ่งที่เรารักเราชื่นชอบและมีผลดีต่อสุขภาพของทุกคนอีกด้วยค่ะ
ปลูกมะเขือพวงอาชีพเสริมเพิ่มรายได้
ปลูกมะเขือพวงอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ การใช้ชีวิตของคนเราทุกวันนี้อยู่ห่างไกลและขาดการใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติมากขึ้นทุกวันเพราะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับเทคโนโลยี แม้แต่การทำอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ก็ยังมีเรื่องของเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง สำหรับคนที่กำลังมองหาอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ วันนี้ผู้เขียนมีงานเสริมที่ทำให้ได้ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติมาแนะนำค่ะ มะเขือพวงอายุยืนปลูกทีเดียวเกี่ยวผลผลิตสร้างรายได้ได้นาน ปลูกมะเขือพวง อาชีพเสริมเพิ่มรายได้ที่ทำให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นแล้วยังได้อยู่กับธรรมชาติ ได้รดน้ำพรวนดินและใส่ปุ๋ยที่ถือว่าเป็นการออกกำลังกายที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ มะเขือพวงเป็นพืชที่ปลูกไม่ยาก ลงทุนต่ำ ราคาแพงและเป็นที่ต้องการของตลาด ถ้าปลูกเพื่อเป็นอาชีพอิสระอาจมีพื้นที่ว่างประมาณ 100 ตารางวา หรือ 1 งานก็สามารถปลูกมะเขือพวงขายได้แล้วหากปลูกน้อยกว่านี้ก็จะทำให้เก็บผลผลิตได้น้อยไม่เพียงพอหรือไม่คุ้มกับการนำไปขายหากตลาดที่รับซื้ออยู่ไกล วิธีปลูกมะเขือพวงต้องเลือกซื้อเมล็ดพันธุ์ที่มีขายแบบเป็นซองๆแล้วนำมาเพาะประมาณ 1 เดือนก็จะได้ต้นมะเขือพวงพร้อมปลูก และสามารถเก็บผลผลิตขายได้เมื่อต้นมะเขือพวงอายุได้ 80-100 วันหลังจากนำมาปลูก มะเขือพวงเป็นพืชที่อายุยืนปลูกครั้งเดียวสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตลอด ข้อสำคัญคือต้องหมั่นตัดแต่งกิ่งไม่ให้ต้นมะเขือพวงสูงหรือโตจนเกินไปนอกจากเก็บยากแล้วยังทำให้มะเขือพวงออกดอกน้อยอีกด้วย ราคาขายส่งมะเขือพวงกิโลกรัมละ 45-50 บาทหรือมากกว่านั้นถ้าเป็นช่วงที่มะเขือพวงขาดตลาด การปลูกมะเขือพวงเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ถ้าจะให้ได้ผลดีและเป็นอาชีพอิสระที่มีรายได้ตามที่เราต้องการควรศึกษาข้อมูลจากหนังสือหรือแหล่งความรู้ต่างๆก่อนลงมือปลูก ซึ่งจะมีรายละเอียดและวิธีการปลูกตลอดจนการบำรุงรักษาให้เราได้เรียนรู้อย่างละเอียด ทุกอาชีพต้องมีการลงทุนทั้งการลงทุนเป็นตัวเงินและลงทุนลงแรงทางด้านความคิด มะเขือพวงเป็นพืชป่าที่มีอายุยืนถึง 10 ปีหากมีการบำรุงรักษาอย่างถูกต้องนอกจากเป็นงานเสริมแล้วยังเป็นอาชีพหลักได้อีกด้วยค่ะ
ส่วนผสมและวิธีทำสลิ่มน้ำกะทิอบควันเทียน
ขายสลิ่มขนมหวานอาชีพเสริมสร้างรายได้ อากาศที่ร้อนอบอ้าวจนหลายๆคนต้องหาวิธีคลายร้อนด้วยการเลือกดื่มเครื่องดื่มหรือทานขนมที่มีรสหวานเย็นเพื่อช่วยคลายความร้อน “สลิ่ม” เป็นขนมหวานของไทยที่มีมาแต่โบราณหาทานยากเพราะมีวิธีการขั้นตอนการทำที่ละเอียดอ่อนและต้องทำอย่างใจเย็น ทำสลิ่มขาย เป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ที่น่าสนใจโดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อนๆถึงแม้จะมีขั้นตอนการทำที่ละเอียดอ่อนแต่ก็เป็นขนมหวานที่คนนิยมทานและหาทานยาก สำหรับคนที่สนใจต้องการทำสลิ่มขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ วันนี้ผู้เขียนมีวิธีทำตัวสลิ่มและน้ำกะทิอบควันเทียนมาแนะนำค่ะ ส่วนผสมและวิธีทำสลิ่มน้ำกะทิอบควันเทียน ส่วนผสม 1.แป้งสลิ่มสำเร็จรูป (ผู้เขียนใช้แป้งสลิ่มตรามังกรคู่) 1 ถุง 2.น้ำเปล่า 3.มะพร้าวขูด 1 กก. 4.ใบเตย 5 ใบ 5.ดอกอัญชัน 5 ดอก 6.น้ำตาลทราย 500 กรัม 7.นมสดกระป๋องเล็ก 1 กระป๋อง 8.เทียนอบ 9.อุปกรณ์สำหรับกดสลิ่ม 10.ภาชนะใส่น้ำเปล่าสำหรับรองรับสลิ่มที่กดลงไป 11.เกลือป่นเล็กน้อย วิธีทำ 1.นำใบเตย 3 ใบมาซอยละเอียดแล้วนำไปโขลกจากนั้นกรองเอาแต่น้ำ แล้วพักไว้ 2.คั้นดอกอัญชันกับน้ำเปล่าเล็กน้อยกรองเอาแต่น้ำแล้วพักไว้ 3.เคี้ยวน้ำตาลทรายกับเตย 2 ใบ ใช้ไฟอ่อนๆจนได้น้ำเชื่อมที่เหนียวข้นแต่ไม่ต้องจับตัวเป็นก้อนพักไว้ให้เย็น 4.ตวงแป้ง 1 ถ้วยแล้วเติมน้ำ 5 ถ้วย (หรือใช้อัตราส่วนตามที่เขียนบอกไว้ข้างถุง)