ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุใดใคร ๆ ก็มีอาชีพเสริมค้าขาย
เหตุใดใคร ๆ ก็มีอาชีพเสริมค้าขาย
มองไปทางไหน เพื่อนฝูงคนรู้จัก สนิทสนม ห่างมากห่างน้อย คิดเป็นสัดส่วนแล้วจะมีอาชีพเสริมค้าขายมากกว่าอาชีพอื่น ๆ ไม่ว่าจะขายเสื้อผ้า เครื่องประดับ ของกระจุกกระจิก ของมือสองต่าง ๆ แม้แต่ตัวผู้เขียนเองก็เคยทำอาชีพเสริมค้าขายกับเขาเหมือนกัน
ซึ่งในช่วงเวลานั้นเป็นช่วงวัยเรียนค่ะ เคยทั้งขายขนม ของเล่น ขายหนังสือ และงานฝีมือที่คุณแม่เป็นคนทำ เช่นงานดอกไม้ถักไหมพรม ตุ๊กตาไหมพรม สมุดโน้ตทำมือ การ์ดวันพิเศษ เป็นต้น ครอบครัวของเพื่อน ๆ อีกหลายคนก็ทำอาชีพเสริมค้าขายเช่นกันค่ะ ยกตัวอย่างนะคะ ครอบครัวของใบเตย(ชื่อสมมติค่ะ) มีอาชีพหลักคือทำสวน ทำไร่ มีอาชีพสำรองคือขายข้าวแกง โดยใช้พืชผักที่ปลูกขายมาทำอาหาร
ครอบครัวของกระแต(ชื่อสมมติอีกเช่นกัน) มีกิจการร้านขายยา ในช่วงยามเย็น คุณยายกับคุณแม่ของกระแตก็เปิดซุ้มขายขนมจีนเป็นงานเสริม
และมีบางคน พอวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ก็ขับรถพาครอบครัวไปขายของที่ตลาดในเขตท่องเที่ยว
จะเห็นได้ว่าอาชีพเสริมค้าขายนั้น เป็นที่นิยมมาก ๆ
จะเห็นได้ว่าอาชีพค้าขายนั้น เป็นที่นิยมมาก ๆ หากอยากทำจริง ๆ ให้สำรวจดูว่า เราจะใช้เวลาในช่วงไหนถึงจะเหมาะสมและดีที่สุด มาแบ่งช่วงเวลากันดูค่ะ
ทำอาหารขายช่วงเช้า - อย่างคนที่มีงานประจำ จะไหวมั้ย เพราะต้องตื่นเช้าหน่อย เพื่อเตรียมของเปิดร้านอาชีพเสริมตอนเช้า โดยขายอาหารที่กินง่าย ๆ อย่างหมูย่าง หมูปิ้ง ไก่ปิ้ง กับข้าวเหนียว ขายโจ๊ก ขายขนมปัง แซนด์วิช ขายลูกชิ้น เป็นต้น หากทำเองไม่ไหว เรายังสามารถไปรับซื้อมาแล้วขายต่อเอาก็ยังได้ หากว่าขายช่วงเช้าไม่ไหว
ขายของช่วงเย็นหลังเลิกงาน – ช่วงนี้ ขายของได้หลากหลายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาหาร หรือเสื้อผ้า ของใช้ หากรู้สึกว่าเหนื่อยเกินไปละก็
ขายของวันหยุด– ซึ่งน่าจะมีเวลาเตรียมตัวมากที่สุด และไม่เหนื่อยจนเกินไปด้วย ยังมีบางคนเสริมว่า สามารถขายของในช่วงเวลาทำงานได้ เช่นงานขายประกัน ขายเครื่องสำอางให้เพื่อน ๆ ในออฟฟิศ ขายเสื้อผ้าเครื่องประดับตามออเดอร์…อันนี้ก็ดีนะคะ แต่อย่างไรก็อย่าให้เสียงาน โดนเจ้านายเพ่งเล็งว่าไม่เต็มที่กับงานที่ทำ เดี๋ยวจะกลายเป็นตกงานเพราะอาชีพเสริมค้าขาย.